วันศุกร์, เมษายน 10, 2552

อะไรกันนักหนาบ้านนี้เมืองนี้

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2552 ครม. ได้มีมติให้เป็นวันหยุดราชการ 1 วันหลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ประกาศให้เป็นวันหยุดเพื่ออะไรก็ตาม ข้าราชการต่างดีใจกระดี๊กระด๊ากันยกใหญ่ ต่างคนต่างโทร.ถามข่าวกันให้วุ่นวายไปหมดว่าจริงหรือไม่ที่รัฐบาลให้ข้าราชการหยุด 1 วัน (เพิ่มจาก 5 วันที่หยุดยาวอยู่แล้ว) โอ๊..เย...ดีใจกันถ้วนทั่วหน้า (ไม่รู้จะควรดีใจมั๊ยกับการหยุดกรณีพิเศษเช่นนี้) สำหรับเอกชนไม่รู้ค่ะว่าจะได้หยุดเหมือนข้าราชการหรือไม่ ถ้าใครไม่ได้หยุดก็ไม่ต้องเสียใจหรือคิดมากนะคะ ถือว่าทุ่มเทการทำงานเพื่อตัวเอง บริษัท ถ้ายิ่งใหญ่หน่อยที่เค้าฮิตพุดกันก็คือ ทุ่มให้กับประเทศชาติ เป็นการให้หยุดเพื่อเป็นการแก้สถานการณ์บ้านเมืองของรัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ ที่ดูไม่เข้าท่าเข้าทางนักเพราะทำให้หลายๆ ฝ่ายสับสนกับคำสั่งนี้ที่ต้องเช็คและถามกันวุ่นวายเนื่องจากไม่ค่อยมีใครเปิดฟังและดูนายอภิสิทธิ์ออกแถลงการณ์เมื่อตอนค่ำๆ (ตัวเองเปิดเหมือนกันแต่พอฟังคำพูดแล้วรับไม่ได้ก็เลยปิด เปลี่ยนไปดูช่องสารคดี สัตว์พวกจระเข้ ดูสารคดีพวกนี้ดีกว่าเห็นหน้าใครบางคนที่ไม่มีความจริงใจให้กับประชาชน) ก็เลยเป็นสาเหตุให้มีการเช็ควันหยุดกันวุ่นวายไปหมด

มานั่งคิดดู สำหรับตัวเองนั้นเกือบไปแล้วเชียว กำลังเตรียมหยิบชุดผ้าลายดอกสำหรับใส่ไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ผู้โตในกรมและนอกกรมที่เกษียณอายุไปแล้วและเดินทางมาให้เด็กๆ อย่างพวกเรารดน้ำดำหัวกัน เป็นอันว่าต้อง งด พิธีการทั้งหมดรวมทั้งต้องยกเลิกการจัดประชุมของตัวเองที่ต้องหยุดโดยปริยาย 1 วันตามคำสั่ง(เสียหรือเปล่านะ)ของรัฐบาลมาร์ค (กะสัน) เปิดทำการคงยุ่งพอสมควรเกี่ยวกับวันที่เหลือของการจัดประชุมที่ได้สั่งการเตรียมการไว้หมดแล้วไม่ว่าเรื่องห้องประชุม อาหาร รถรับวิทยากร ซึ่งแน่นอนอาจจะต้องมีการรับผิดชอบค่าอาหารที่สั่งไม่ว่าเป็นอาหารกลางวันและอาหารว่างสองมื้อ แล้วจะทำอย่างไรดีกับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ที่เกิดโดยคำสั่งของรัฐบาลแบบกระท้นหัน แต่ก็ดีใจที่ตัวเองไม่เฉิ่มแต่งตัวไปทำงานเก้อในวันพรุ่งนี้ หรือโผล่ไปที่ทำงานแล้วไม่มีใครสักคนมาทำงาน 55555 ไม่แน่นะอาจมีคนที่เฉิ่มๆ หลายคนก็ได้งานนี้ สำหรับตัวเองโชคดีที่มีคนที่รักเราคนหนึ่ง คอยรายงานข่าวทุกอย่างส่ง SMS มาบอกเพื่อให้รู้ตัวไม่ทำอะไรเฉิ่มๆ และวันนี้เป็นวันอะไรไม่รู้ โทร.กี่เครื่องแบตหมดทุกเครื่อง 55555 มารู้ตัวว่าแบตหมดก็ไม่มีเวลาชาทซะแล้วเพราะต้องประชุม และเตรียมการงานจัดประชุมครั้งต่อไป และงานที่ยังทำไม่เสร็จ ที่โดนรองอธิบดี ทวงผ่านหัวหน้า วันนี้เป็นอันว่า งง จนเซ็งไปเลยไม่ได้ดังใจตัวเองเลยสักอย่าง...ทำงานต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่มีสมาธิที่จะทำงานต่อ เก็บงานใส่ซองเอากลับมาทำที่บ้าน แต่ตอนนี้ไม่ทำแล้วเพราะหยุดยาวเลย....55555....ถือว่าโชคดีที่ตัดสินใจหอบงานกลับมาทำต่อที่บ้าน...ขอบคุณพี่คนดี ที่รักกันและห่วงใยกัน คิดถึงเราเป็นอันดับแรกรีบส่งข่าวสารมาให้รับรู้ก่อนที่จะต้องไปทำอะไรเฉิ่มๆ ในวันรุ่งขึ้น ไม่ว่าคนนี้จะเป็นเช่นไร จะขึ้นลง เปลี่ยนแปลงดีหรือร้าย พี่คนดีก็ยังรักคนๆ นี้ไม่เสื่อมคลายและดูแลกันตลอดมาโดยไม่เคยตั้งความหวังว่าจะได้อะไรจากคนๆ นี้แม้ความรักตอบ...ขอบคุณนะคะ...


เมื่อกี้..นั่งว่างๆ เข้าไปอ่านอะไรเล่นๆ ไปเจอบทความนี้จากบล๊อกหนึ่งก็เลยขอเอามาแบ่งปันเผื่อเป็นความรู้เกี่ยวกับการเมืองที่เป็นไปในอดีต ที่มีผลจนปัจจุบัน ที่เกี่ยวกับพรรคการเมืองหนึ่งที่อยู่คงกระพัน อยู่พรรคเดียว (เหมือนจะดี วิเศษเลิศเลออยู่พรรคเดียวเนอะ) พรรคอื่นๆ เค้าโดนยุบพรรค โดนโน่นโดนนี่กันหมดกับสาเหตุเล็กๆ น้อยๆ แต่สำหรับพรรคนี้ขนาดปลากระป๋องเน่าๆ นมบูดๆ หรือแม้แต่ สปก.104 ก็ยังอยู่ได้เหนียวแน่นไม่โดนยุบบุบสลายเหมือนพรรคอื่นๆ เกิดความสงสัยว่ามีของดีอะไรนะ หรือว่าน่าจะไปสักยันต์กับพระอาจารย์ที่ไหนสักแห่งมั๊งคะเนี่ย..ลองอ่านบทความนี้ดูค่ะแล้วพิจารณากันเพราะเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้อะไรจริงหรือเท็จ...บางทีตัวเองก็ต้องใช้เซนส์ที่มีในการตัดสินใจเชื่ออะไรสักอย่าง และเซนส์ของตัวเองก็ค่อนข้างแม่น เชื่ออย่างไรมักเป็นอย่างนั้นซะด้วยสิคะ...55555....อ่ะอ่านกันค่ะ นอกเรื่องอีกแล้ว คนเรา...



คนที่เขียนบล๊อกที่เอามาลงนี้ เค้าบอกว่าเหตุการณ์วุ่นวายของบ้านเมืองตอนนี้ ใกล้จะเหมือน 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เข้าไปทุกที และเค้าได้เอาข้อความจาก WiKiPedia ที่เขียนถึงคืนก่อนวันนองเลือด 10 เม.ย. 52 ซึ่งเค้าเล่าว่า



เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 เสด็จสวรรคต รัฐบาลนายปรีดีที่เพิ่งชนะเลือกตั้งหลังการประกาศใช้ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ได้ขอความเห็นชอบต่อสภาฯ ว่า ผู้ที่จะขึ้นครองราชย์สืบสันตติวงศ์ควรได้แก่สมเด็จพระอนุชา เมื่อสภามีมติเห็นชอบแล้ว นายปรีดีก็ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ทั้งที่เพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ก่อนการสวรรคต 1 วัน ด้วยเหตุผลว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงแต่งตั้งตนเป็นนายกรัฐมนตรีได้สวรรคตเสียแล้ว


แต่หลังจากนั้นสภาผู้แทนราษฎรก็สนับสนุนให้นายปรีดี ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อเป็นสมัยที่ 3 กรณีสวรรคต รัชกาลที่ 8 ถูกศัตรูทางการเมืองของนายปรีดี ซึ่งเชื่อกันว่าประกอบด้วยกลุ่มทหารที่สูญเสียอำนาจหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และพรรคการเมืองฝ่ายค้าน นำมาใช้ทำลายนายปรีดีทางการเมือง โดยการกระจายข่าวไปตามหนังสือพิมพ์ ร้านกาแฟ และสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งส่งคนไปตะโกนในศาลาเฉลิมกรุงว่า "นายปรีดีฆ่าในหลวง" ซึ่งเป็นคำกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก กลายเป็นกระแสข่าวลือ และนำไปสู่การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายปรีดีในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2489



โดยหลังจากนั้น หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนายปรีดี ให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนต่อมาในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 คณะรัฐประหาร ซึ่งใกล้ชิด จอมพล ป. พิบูลสงคราม ประกอบด้วย พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ พ.อ.กาจ กาจสงคราม พ.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ พ.อ.สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พ.อ.ถนอม กิตติขจร พ.ท.ประภาส จารุเสถียร และ ร.อ.สมบูรณ์ (ชาติชาย) ชุณหะวัณ ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศ จากรัฐบาลหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ หลังจากยึดอำนาจสำเร็จ



คณะรัฐประหารพยายามจะจับกุมตัวนายปรีดีกับครอบครัว แต่นายปรีดีทราบข่าวก่อนเพียงไม่กี่นาที จึงหนีทัน และได้ลี้ภัยการเมือง ไปยังประเทศสิงคโปร์ สองปีถัดมา ก็ลี้ภัยต่อไปอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างนั้นรัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ ที่ได้รับแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร ก็ถูกรัฐประหารซ้ำโดยคณะรัฐประหารกลุ่มเดิม และ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งโดยต่อเนื่องเป็นเวลา 9 ปีเศษ



ข้างบนนี้ เป็นประวัติบางส่วนของท่านรัฐบุรุษ ปรีดี พนมยงค์ ที่ต้องลี้ภัยการเมือง จาก "กรณีสวรรคต" ซึ่งยังไม่ได้รับการคลี่คลาย ในขณะนี้สิ่งที่น่ากลัว ก็คือ นี่ถือเป็น "ไม้ตาย" เพื่อให้ได้อำนาจการปกครอง ไม่จำเป็นต้องสนวิธีการ เพราะไม่มีใครหน้าไหนจะสู้ท่านปรีดีได้สักคนเดียว


ภายหลังจากเหตุการณ์ ฝ่ายทหารได้กุมอำนาจ เบ็ดเสร็จเด็ดขาดมาจนทุกวันนี้แม้ว่าในภายหลัง จะมีการพยายามทำรัฐประหาร ครั้งกบฏวังหลวง โดยมี ท.ร. เข้าช่วย แต่ก็ไม่สำเร็จ นั่นถือเป็นการสิ้นสุดอำนาจของนักการเมืองสายนายปรีดี อย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งทำให้ทัพเรือโดนบอนไซ มาถึงทุกวันนี้


จากกรณี สวรรณคต เป็นจุดเริ่มต้นทำให้พรรคการเมือง พรรคหนึ่งในที่นั่งในสภา และเป็นพรรคเก่าแก่มาจนทุกวันนี้แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นผู้กระทำ/บงการ แต่เหตุการณ์วันที่ 9 มิถุนา มีผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ ก็คือพรรคการเมือง "ใหม่" ในขณะนั้น ได้มีบทบาทในสภา ตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ พรรครัฐบาลซึ่งภายหลังเลือกตั้งก่อนหน้านั้นมีเสียงข้างน้อยในสภา คือ พรรค"ประชาธิปัตย์"

ถือว่าอ่านเพื่อประดับความรู้ก็แล้วกันค่ะ จริงเท็จเช่นไรไม่มีใครสามารถยืนยันได้ ต้องใช้วิจารณญานกันเอง เพราะข้อมูลข่าวสารสมัยนี้ที่นำเสนอให้ประชาชนรับรู้รับทราบยังเป็นเท็จบ้างจริงบ้าง พวกเราต้องใช้สติและวิจารณญานให้รอบคอบ อย่าเชื่อและอย่าฟังความอะไรข้างเดียวพยายามฟังหลายๆ ฝ่าย บาทีฟังหลายฝ่ายแล้วยังเชื่อไม่ได้อีก สำหรับตัวเองเชื่อตัวเองค่ะ ว่าที่ตัดสินใจแบบนี้ไม่ได้คิดจะเอนเอียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เพราะมีเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาให้เห็นและทำให้เชื่ออย่างที่ตัวเองเชื่อ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไรเป็นเรื่องของแต่ละคนกันค่ะ




Counter
คนน่ารักเข้ามา
เริ่ม 20/3/52





จะได้ไม่ลืมกัน
เบิร์ด ธงไชย



ไกลสุดฟ้า ก็ไม่สามารถกั้นเรา
แค่ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ
แต่การ…ได้รักเธอ นั่นคือของสำคัญกว่า
และมันมีค่ามากเกินกว่าสิ่งไหนไหน

ฉันขอสัญญา… จะจำทุกเรื่องราว
ไม่ว่าร้ายหรือดี สุขหรือทุกข์ใจ
ฉันจะทบทวน เรื่องราวของเธอตลอดไป
เผื่อวันสุดท้ายที่ฉันหายใจ…จะได้ไม่ลืมเธอ

ปลายขอบฟ้า กับระเบียงที่เราเคย
นั่งมองท้องฟ้าด้วยกัน
ต้นไม้…ต้นนั้น จะดูแลรักษามัน
แทนความคิดถึง เมื่อเธอไม่อยู่ตรงนี้

ฉันขอสัญญา จะจำทุกเรื่องราว
ไม่ว่าร้ายหรือดี สุขหรือทุกข์ใจ
ฉันจะทบทวน เรื่องราวของเธอตลอดไป
จะจำเธอไว้ และรักเธอไป…อย่างนี้

โปรดจงมั่นใจ ฉันขอสัญญา… จะจำทุกเรื่องราว
ไม่ว่าร้ายหรือดี สุขหรือทุกข์ใจ
ฉันจะทบทวน เรื่องราวของเธอตลอดไป
เผื่อวันสุดท้ายที่ฉันหายใจ…จะได้ไม่ลืมเธอ
จะได้ไม่ลืมเธอ..





6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 เมษายน, 2552 15:54

    จริงๆแล้ว ถ้าอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ความเป็นกลาง ก็ไม่อาจตัดสินได้ว่าพรรคไหนดี พรรคไหนแย่ เพราะทุกพรรคล้วนมีคนดีคนเลวปะปนกันไป ก็เหมือนคนนั่นแหละ ไม่มีใครดีพร้อมไปเสียทุกเรื่อง กระนั้นก็ตาม สิ่งที่คนเรามองในขณะนี้คือ ใครดีมากกว่า ใครเลวน้อยกว่า ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ใครจาบจ้วงเบื้องสูง ซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ เห็นพร้องกันว่า มันมากเกินไป มิอาจยอมรับได้ พ่อหลวงเหนื่อยแค่ไหน คนไทยควรตระหนักดี แต่คนโง่ที่มักอวดฉลาด รวมทั้งคนฉลาดแต่ไม่เฉลียว อีกทั้ง คนฉลาดเฉลียวแต่กมลสันดานต่ำ กลับมองเห็นสิ่งที่ตัวเองทำ เป็นสิ่งที่เลอเลิศ บอกได้คำเดียว ต้องรอ และรอดูผลกรรมของคนที่เจตนาชั่วเท่านั้น คนไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน กับรัฐบาลยุคนี้ก็ควรให้โอกาศพิสูจน์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่สักแต่ผลักดัน ถึงขั้นผลักใสให้กระทำในสิ่งที่คนนั้นก็อยากให้ทำ คนโน้นก็อยากให้ทำ ต้องให้เวลากันหน่อย เหมือนคำกล่าวที่ว่า กรุงโรมใช่จะสร้างเสร็จภายในวันเดียว ไม่ต้องพูดถึงกรุงโรมก็ได้ มองที่ประเทศไทยเรานี่แหละ กว่าจะมาเป็นสยาม เป็นแผ่นดินที่เราอยู่กันนี้ ใช้เวลานานแค่ไหน เอาเป็นว่า ขอจบความเห็นตรงที่ว่า ใครที่ลำพอง ใครที่เห็นแก่ตัว ใครที่โลภมาก ใครที่มักมาก ใครที่เนรคุณแผ่นดิน คนๆนั้น สุดท้ายก็ต้องอยู่โดดเดี่ยว หาคนจริงใจที่จะคบหาสมาคมด้วยมิได้ แล้วตอนจบหรือว่าบทสรุปของชีวิต ก็ไม่มีทางแฮปปี้เอเวอร์อาฟเตอร์ได้หรอก

    ตอบลบ
  2. นั่นสิคะนั่งรอดูผลกรรมที่ใครบางคน หรือกลุ่มบางกลุ่มร่วมกระทำอยู่ค่ะ...และก็ขอให้ทุกคนมีความฉลาดและเฉลียวโดยไม่ต้องมาโอ้อวดกันว่าใครไม่ฉลาดและใครไม่เฉลียว หรือฉลาดและเฉลียวแต่โง่ดักดานอะไรแบบนี้

    เบื้องสูงถ้าหมายถึงพ่อหลวง เราคนหนึ่งล่ะที่ไม่ยอมให้ใครมาจาบจ้วงแน่นอนเพราะท่านอยู่เหนือสมมติเทพเหนืออื่นใดที่คนไทยรักและเคาพรเทิดทูนไว้เหนือหัวกันทุกคน อย่าเอามาพูดอย่าเอามาเอ่ยตรงนี้ จขบ.ไม่ชอบค่ะเพราะเนื้อหาที่เขียนมาไม่แตะต้องแน่นอนเพราะรักและพร้อมยอมตายถวายชีวิตเพื่อพระองค์ท่าน แต่ถ้าหมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ชอบแอบอ้างโดยใช้คำว่ารับใช้เบื้องสูงอย่างโน้นอย่างนี้แต่ไม่ทำตัวให้สมกับคำว่ารับใช้เบื้องสูงอันนั้นเป็นอีกเรื่อง จขบ.ไม่เกี่ยวและไม่สนใจด้วย อย่างที่ว่าใครทำกรรมอะไรไว้ ผลกรรมจะตอบสนองไม่วันใดวันหนึ่ง ทำเช่นไรได้เช่นนั้นล่ะ

    อ่อ อีกเรื่องที่อยากชี้แจง เรื่องที่ควรให้โอกาส (ส ไม่ใช่ ศ) ถามรัฐบาลนี้ดูสิคะว่าเมื่อก่อนให้โอกาสคนเป็นรัฐบาลก่อนหน้าตัวเองมากน้อยแค่ไหน เค้ายังไม่ทันทำงานอะไรเลยก็ขวางลำเค้าแล้ว ให้เค้าลาออกบ้าง ยุบพรรคบ้าง ก็เลยคิดว่าบุญกุศลที่ทำไว้ก็เลยตอบแทนแบบสมน้ำสมเนื้อ คงไม่ว่ากันนะคะ นี่พูดตามเนื้อผ้าค่ะ...โอกาสน่ะพร้อมให้ แต่ถ้าให้โอกาสต่อไปแล้วพวกเราต้องมารับผิดชอบหนี้สินที่กู้ๆๆๆ กับการทำงานอย่างที่เห็นๆ แค่เข้าไปไม่ทันไรเป็นไงคะ...เห็นๆ กันอยู่ และที่ทุกคนเค้าออกมาแบบมืดฟ้ามัวดินแบบนี้เท่าที่คุยกับบางคนแบบตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้างเสียงส่วนใหญ่เค้าบอกว่าไม่มีใครจ้าง ไม่มีใครรู้ใครเป็นใคร แต่ทุกคนมีความรู้สึกมีความเห็นเหมือนกัน คือ ต้องทำอะไรบางอย่างให้รู้บ้างว่า ไม่ชอบการบริหารแบบนี้ ที่หาเงินไม่เป็นแต่ใช้เงินและกุ้เงินเป็นอย่างเดียว ส่วนใครจะรกโลก โลภมาก มักมาก เนรคุณแผ่นดิน อันนี้ตอบไม่ได้และในความรู้สึก จขบ. ไม่รู้ค่ะว่าเป็นใครบ้าง แต่ในใจ จขบ.ที่คิดอยู่ลึกๆ พอมองเห็นตั้งแต่ม๊อบคราวที่แล้ว และถ้าไม่ปิดหูปิดตานักจะรู้ว่า คือ ใครบ้างที่เป็นแบบที่ คห.แรก กล่าวมา

    นั่นสิคะประเทศไทยไม่ได้สร้างภายในวันเดียว เรื่องนี้ย้ำคิดย้ำเตือนกันให้หนักนะคะ ว่าจะทำอะไรคิดบ้างว่าประเทศไทยไม่ได้สร้างมาภายในวันเดียว (จะเหมือนกรุงโรมหรือไม่ ขอตอบว่าไม่เหมือนแน่นอนเพราะประเทศไทยก็คือประเทศไทย กรุงโรมก็คือกรุงโรม รากฐาน บรรพบุรุษ จิตสำนึกแตกต่างกัน) แล้วทำไมถึงทำอะไรกันแบบไม่คิดให้ดีว่าสิ่งที่ทำจะทำให้บ้านเมืองเดือดร้อนมากแค่ไหน ซึ่งทำกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็คือมีคนบางกลุ่มทำให้ประเทศไทยแทบล่มสลายและเกิดภาพลบไปทั่วโลก และตอนนี้มีอีกกลุ่มดำเนินรอยตาม ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง จขบ. ไม่ชอบการกระทำแบบนี้เพราะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย แต่บอกตรงๆ นะคะ ครั้งนี้แค่ไม่กี่วันก็รู้สึกไม่ชอบเหมือนกัน แต่ครั้งก่อนนานกว่านี้มันทำให้ครั้งนี้ชาชินกับเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าจะพูดว่ากันก็ควรว่าตั้งแต่ครั้งโน้นนั่นล่ะค่ะ ไม่ใช่เพิ่งมารู้สึกกันในครั้งนี้ เพราะครั้งก่อนทำกันมากกว่านี้ถึงปิดสนามบิน ปิดโน่น ยึดนี่ ยึดแม้กระทั่งที่ทำการรัฐบาล ทำกันวุ่นวายไปหมด ทำเป็นแรมเดือนแรมปี ไม่เดือดร้อน ไม่บ่นกันเลยเหรอคะนั่น

    อ่อ..เผอิญ จขบ.ไม่ชอบความเหลื่อมล้ำต่ำสูงน่ะค่ะ ที่อีกพวกทำได้ อีกพวกห้ามทำ เค้าว่านะคะยิ่งห้ามยิ่งยุและห้ามโดยมีความเหลื่อมล้ำทุกอย่างยิ่งเป็นแรงผลักดันให้คนออกไปทำอะไรแบบนี้เยอะค่ะว่ามั๊ย

    ถ้าอยากให้สังคมสงบก็อย่าเลือกปฏิบัติ และรู้จักคำว่า รอมชอม อย่าอวดดื้อถือดี จาบจ้วงคนอื่นด้วยคำพูดที่ไม่คิด แย่ๆ และถ้าให้ทุกอย่างกลับไปสู่สภาพเดิมก็ลองทำตามคำขอคนอื่นบ้างให้เริ่มไปนับหนึ่งใหม่ก็คงไม่สาย ยุบสภาเลือกตั้งใหม่เลยเพือพิสูจน์ประชาธิปไตยที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ออกเสียงที่จะเลือกใครหรือไม่เลือกใครให้เห็นๆ ไปเลยจะได้หมดข้อกังขาเสียทีที่เค้าหาว่า เข้ามาแบบไม่ชอบธรรม คือ เค้าพูดกันว่าทำและมีกระบวนการทำให้เกิดจนกระทั่งได้เป็นน่ะค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้เราก็จะไมยึดติดตำแหน่งพิสูจน์ตัวเอง เข้าใจว่าคนที่ประท้วงเค้าก็คงรอคำตอบนี้ และเค้าไม่ไม่ใจร้ายใจดำพอตกลงว่าจะยุบสภาหรือลาออก เค้าจะให้ออกทันทีทันใดล่ะมั๊ง คงยังมีเวลาเตรียมตัวโดยกำหนดเวลาแบบสมเหตุสมผลแบบที่ตกลงกันได้น่าจะดี แต่ก็อย่างว่ามีนักวิชาการบอกว่า การยุบสภาก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่ตอนนี้ลองทำตามคำเรียกร้องก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรือ หรือเสียหายเพราะกลัวจะไม่ได้เป็นกันอีกล่ะคะ...ถ้าทำแบบนี้นะเราคนหนึ่งล่ะจะให้โอกาสด้วยความยินดีร้อยเปอร์เซนต์เต็มโดยไม่มีข้อแม้และข้อกังขาเพราะเป็นเสียงของประชาชนส่วนใหญ่อยากให้เป็นเช่นนั้นค่ะ

    ขอบคุณนะคะที่มาแสดงความคิดเห็น ถึงจะเป็นแบบไม่เปิดเผยตัวเอง ไม่เป็นไรค่ะ เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครกล้าเปิดเผยตัวตนได้เพราะเป็นเรื่องที่หาข้อยุติไม่ได้จริงๆ อย่างคุณว่า เพียง จขบ. เห็นว่าบล๊อกนี้เป็นของตัวเองความเห็นของตัวเองน่าจะถ่ายทอดตรงนี้ได้ รู้สึกเช่นไรก็เคารพกับความรู้สึกตัวเองและเปิดเผยให้เห็นกันไปเลยว่า จขบ.คิดแบบนี้ล่ะ และแน่นอนอยู่แล้วที่ว่าไม่มีความคิดใครตรงใจใครได้ ไม่ว่ากันค่ะยังไงก็ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์ถ่ายทอดความคิดเห็นส่วนตัวไว้ให้ จขบ.ได้รับรู้ค่ะ

    ตอบลบ
  3. เหตุการณ์มันคุ้นๆจริงๆแฮะ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ก็คล้ายๆกันเลย เหอๆๆ บังเอิญแน่ๆเนอะ
    สำหรับผมแล้วรู้สึกว่าตอนนี้มันมีอะไรหลายๆอย่างที่ขัดแย้งกันเยอะ เยอะมากๆ และก็เกิดคำถามว่า"ทำไม" ในหัวผมเต็มไปหมด เช่น
    ทำไม พธม. ยึดทำเนียบ บุกรัฐสภา ตำรวจใช้แค่แกสน้ำตา โล่ กระบอง กลับบอกว่าตำรวจทำรุนแรง ตำรวจฆ่าประชาชน แล้วแค่ นปช. ชุมนุมกันบ้าน กลับมีทั้งทหาร ตำรวจ มาล้อม รวมทั้งหน่วยซุ่มยิง เปิดไฟเขียวให้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดได้ นี่มันอะไรกัน?
    ทำไม รัฐบาล สมัคร ที่ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งเข้ามาเป็นรัฐบาล ยังไม่ทันได้ทำงานอะไรก็โดนด่าว่าโจมตีมากมาย โดยไม่ให้โอกาสได้ลองทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แล้วพอมาถึง รัฐบาล อภิสิทธิ์ พอโดนโจมตีกลับบ้างก็มาขอโอกาสได้ทำงานดูก่อน ไม่เคยให้โอกาสคนอื่นเขาแล้วจะมาขอโอกาสอะไรกับใคร?
    ทำไม พธม.บุกยึดสนามบิน ทำประเทศฉิบหายไปเป็นพันๆล้าน กลับยังไม่ถูกลงโทษหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด?
    เมื่อไหร่มันจะเกิดความยุติธรรมจริงๆกับบ้านเมืองนี้สักทีคับ?

    คิดถึงนะคับคนดี ^^

    ตอบลบ
  4. ผู้หมวดคะ ไม่รู้จักคำว่า "มักกะสัน" เหรอคะ ถ้ารู้จักจะรู้ว่าทำไมถึงมีความแตกต่างกันในการปฏิบัติ

    เนอะตัวเองทำได้พอคนอื่นทำบ้างก็โวยวายและกลั่นแกล้ง ว่าเค้าสารพัด ไม่แฟร์เลย แต่ก็ไม่อยากให้ปิดถนนอ่ะค่ะ คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เค้าพลอยเดือดร้อนด้วย แต่อย่างว่า ถ้าไม่ทำให้เห็นแบบนี้รัฐบาลอย่างหนา เอ๊ย..อย่างนี้ก็ไม่รู้สึกรู้สายังคงลอยหน้าลอยตาจีบปากจีบคอออกอากาศชี้แจงจริงบ้างเท็จบ้างทุกวัน

    สิ่งที่บอกมาก็ไม่ได้เข้าข้างหรือเป็นพวกสีแดง แต่ตอนนี้ใครๆ ก็กล่าวหาว่าเป็นพวกไปซะแล้ว ความจริงไม่ใช่ซะทีเดียวเพียงแค่ไม่ชอบความอยุติธรรมในสังคม และเกลียดการพูดอะไรในแง่ตัวเองเข้าข้างตัวเอง ตัวเองถูกหมดคนอื่นผิดหมด ทั้งที่คนที่ตัวเองว่าอยู่นั้นเค้าทำและพูดเหมือนกันกะที่ตัวเองเคยทำและพูดมา ไม่ชอบการเหลื่อมล้ำในสังคมแบบนี้มากๆ ค่ะ...เด๋วก็เป็นพวกสีแดงเต็มตัวซะนี่ว่ากันมากๆ นัก...ว่าไงคะผู้หมวดขา..

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ12 เมษายน, 2552 02:21

    ขออนุญาตออกความเห็นด้วยนะคะ
    ส่วนหนึ่งก็เห็นด้วยกับความเห็นของ จขบ นะคะ
    และก็ไม่ชอบความไม่ยุติธรรมเช่นกัน
    แต่ถ้าเอาอารมณ์มาตัดสิน และเรียกร้องความเท่าเทียมแบบนี้ ประเทศชาติคงไม่เหลืออะไร
    แล้วนี่หรือคือสิ่งที่พวกเราต้องการ
    เราจะห้ำหั่นกันเอง แล้วสุดท้ายจะเหลืออะไร


    พวกแกนนำจะเหลืองหรือแดง ก็เป็นตัวลิ้นสองแฉกที่เที่ยวโขมยกินไก่เหมือนกัน อย่ายอมให้พวกนี้ยั่วยุทิฐิในใจเราเลย เพราะพวกนี้ไม่ได้มีความจริงใจสักนิดมันทำเพื่อตัวมันเองทั้งนั้น

    ถ้าไม่ชอบใจในความคิดเห็นก็ลบทิ้งได้นะคะ เคารพสิทธิของ จขบ ค่ะ
    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  6. อ่อ..ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะที่มาคอมเมนท์ ทำให้บล๊อกนี้ไม่เหงาค่ะ และขอเพิ่มเติมความคิดเห็นหน่อยค่ะว่า...ที่เขียนมาทั้งหมดเป็นสิ่งที่คิดไว้ตั้งแต่แรก ตั้งแต่มีม๊อบเสื้อเหลืองค่ะ นั่งคาดเดากะผู้หมวดแบบหาเหตุและผลในสิ่งที่เกิดกันเล่นๆ แต่ค่อนข้างจริงจัง และเมื่อเวลาผ่านหลายเดือนมากๆ ทุกอย่างก็เป็นจริงอย่างที่ตั้งข้อสังเกตให้ผู้หมวดฟังค่ะ ตอนแรกผุ้หมวดก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างในเหตุผลที่ให้ แต่อย่างที่บอกเมื่อเวลาได้พิสูจน์ทุกอย่างปัจจุบันนี้ผุ้หมวดเชื่อและเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ค่ะ

    สำหรับตัวเอง..ลูกยุของใครก็ไม่(ของ)ขึ้นค่ะเพราะเป็นคนมีเหตุและผลสูงมาก เพราะเชื่อว่าผลเกิดจากเหตุ มีเหตุก็ต้องมีผล และทุกอย่างในโลกนี้จะเชื่อหรือทำอะไรต้องมีเหตุผลในการกระทำค่ะ

    ขออนุญาติไม่ลบคอมเมนท์นะคะ ไม่ว่ากันหรอกค่ะที่ความเห็นแตกต่างกันไปแต่ละคน ขออย่างเดียวอย่าว่าใคร ว่าใครโง่กว่าใครพอแล้ว เพราะตัวเองก้ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดจะเป็นคนที่โง่หรือเปล่า แต่ก็เชื่อความคิดและเซนส์ตัวเองตลอดมาค่ะว่าคิดอะไรไม่ค่อยพลาดค่ะ...

    ตอบลบ

ออกความเห็นสักนิดจะมีข้อคิดให้อ่านทุกว้นค่ะ

Personlove