จากบล๊อกที่เอ่ย ก็ได้มีคอมเมนท์เห็นด้วยและแตกต่าง ซึ่งเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่มาออกความเห็นตรงนี้ได้เสมอเพราะเจ้าของบล๊อกเองก็รักประชาธิปไตยและเคารพความคิดเห็นดีๆ ของคนที่เข้ามาคอมเมนท์ทุกคน แต่เราจะไม่พูดตรงนี้ ที่เขียนบล๊อกนี้เพียงแค่จะจดบันทึกความทรงจำในตัวบุคคล คนหนึ่งที่อยู่เคียงข้างกันเสมอมาทั้งที่ในบางเรื่องมีความเห็นแตกต่างกันบางเรื่องก็มีความคิดเห็นเหมือนกัน แต่เราก็เคารพในความเห็นของกันและกันในบางเรื่องต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเองในเรื่องเดียวกันมานั่งคุยกัน แล้วสรุปว่าต่างคนต่างคิด คิดกันสองคนเมื่อความเห็นแตกต่างก็ไม่มีโอกาสรู้ว่าความคิดใครถูกต้องกว่าใคร แต่เมื่อวานภูมิใจที่คนใกล้ตัว คือ ผู้หมวดคนดี กลับมีความคิดเห็นทำนองเดียวกันโดยเจ้าของบล๊อกไม่ได้คาดคิดและนัดกันที่ออกความเห็นในรูปนี้ เข้ามาอ่านแล้วภูมิใจ ดีใจ แอบอมยิ้ม ที่ผู้หมวดใช้เหตุผลมากๆ ในการออกความเห็นเพื่อร่วมชี้แจงสิ่งที่เราสองคนคิดว่าไม่ถูกต้องในสังคมนี้ ดังนี้ค่ะ (ขอบันทึกไว้เป็นหน้าบล๊อกอีกบล๊อกหนึ่งแล้วกันค่ะ)
นี่คือ ความคิดของตัวเองในคอมเมนท์ตัวเอง :-
ขอบคุณทุกคนที่มาคอมเมนท์หน้านี้ ไม่เป็นไรค่ะถึงความเห็นบางความเห็นจะแตกต่างนั่นอยู่ที่วิธีคิดของแต่ละคน..
รู้สึกจะเขียนประโยคนี้ว่า "แต่ทุกอย่างที่เกิดก็มีที่มาและที่ไปเราถึงอภัยให้ได้ไม่ใช่เพราะเราเข้าข้าง ถ้าเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นเราไม่รู้หรอกว่าในสถานการณ์แบบนั้นใครก็อาจออกมาทำอะไรได้หมด " เป็นคำตอบที่รู้สึกเหมือนคุณ....จะถามไว้ (คิดเองนะว่าถาม)เมื่อมีสิ่งยั่วยุอารมณ์คนเราห้ามกันไม่อยู่ค่ะ ทุกม๊อบล่ะค่ะไม่ใช่แค่ม๊อบนี้อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน
ส่วนเรื่องคนตายนั้น..เผอิญไปอ่านจากเวปหนึ่งมา และจากบุคคลคนหนึ่งที่สำหรับตัวเองน่าจะเชื่อถือได้ (ขอย้ำคำว่าน่าจะ เพราะติดตามเค้ามาตลอดและสิ่งที่เค้าบอกก็ไม่เคยเกินความจริง) ส่วนหลักฐานไม่มีค่ะ อีกอย่างสิ่งที่เค้าบอกก็คือ เป็นช่วงฉุกละหุกวุ่นวายไปหมดไม่รู้ว่าใครเป็นใคร คงมีเวลาได้ถ่าย ถ้าไม่ได้ตั้งใจไปถ่ายเพื่อมานำเสนอเพื่อสร้างภาพให้เห็นอย่างเดียว บอกแล้วไงคะอยู่ที่มุมมอง และตรงนี้ขอเพิ่มจิตสำนึกลงไปด้วยในคำตอบ แค่คนที่ถูกยิงบาดเจ็บนอนอยู่ รพ. ยังโกหกคำโตว่าเค้าถูกอะไรไม่รู้เป็นรูและตัดเส้นเลือดใหญ่จนต้องใส่เส้นเลือดเทียมเพื่อช่วยชีวิต และไม่สามารถนำเสนอแผลอีกด้านที่ทะลุได้ มันไม่โปร่งใสค่ะ อย่าปิดตาหลอกลวงประชาชนอีกเลยค่ะ เห็นป่ะคะก็มีคนหลงเชื่อซะด้วยสิ แต่ก็ไม่ว่ากันเพราะตัวเองก็อาจหลงเชื่อในสิ่งที่ตัวเองบอกก็ได้ ทั้งที่ข้อมูลข่าวสารของเสื้อแดงหายากจัง ไปตรงไหนก็ถูกปิด ถูกลบหมด แต่ก็ยุงอุตส่าห์ไปรู้อีก แบบนี้เรียกว่าพยายามเกินไปป่ะคะ...
ส่วนที่ชุมนุมนางเลิ้ง ถ้าดูข่าวและติดตามข่าวตลอดและได้ฟังพี่ชายผู้ตายพูดบอกว่า ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง ยิงมาจากด้านข้าง แต่พวกเสื้อแดงอยู่ด้านหน้ากำลังปะทะกันอยู่ ขนาดพี่ชายคนตายเองยังไม่ปรักปรำทั้งที่เค้าเสียใจ ทั้งที่เค้าโกรธแค้นแต่เค้าก็มีเหตุผลพอที่ไม่ปรักปรำในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ทั้งที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นด้วย และปรากฏในข่าวตอนหลังทั้งในเนทว่า มีคนแต่งชุดดำเป็นคนยิง ใครหนอมาแต่งชุดดำเดินเล่นแถวนางเลิ้งน่าแปลกดีค่ะ
ส่วนเรื่องความรุนแรง อันนี้เราเองไม่ชอบใจเราขอประนามการกระทำที่ไม่น่าใช้ความรุนแรงห้ำหั่นกัน และที่ไม่ชอบมากๆ คือทำลายสมบัติของหลวงที่เป็นภาษีของราษฏร แต่สิ่งที่เกลียดที่สุดคือ คนที่เอาเงินภาษีไปซื้ออาวุธตอนของบประมาณก็บอกไว้ในใบที่ของบว่าเอาไว้ปกป้องประเทศ แต่สิ่งที่เห็นคืออะไร ปกป้องรัฐบาลห่วยแตกเพื่อให้เค้าทำร้ายประชาชน ถึงจะเป็นคนเสื้อแดง แต่เค้าเป็นคนไทยเป็นประชาชนมั๊ย คนเราทุกคนมีโอกาสทำผิดกันได้ทุกคน หรือในชีวิตไม่มีใครคิด หรือทำอะไรกันผิดเลยเหรอคะ อีกอย่างเงินเราก็อยู่ในนั้นด้วยนะคะเพราะเราก็จ่ายภาษีทุกปี เราก็เลยไม่อนุญาติให้เค้าทำแบบนี้เอาเงินที่เราจ่ายภาษีไปทำร้ายใคร เราจึงเกลียดรัฐบาลมากกว่าเกลียดในสิ่งที่เสื้อแดงทำ
ส่วนข้อ 5 ตอบเบ็ดเสร็จแล้วข้างบน ต้องให้เค้าถ่ายเสื้อผ้าที่ยื้อแย่งกันมาซึ่งได้แต่เสื้อผ้าเป็นที่ระลึกไว้ก่อนที่จะเอาคนที่ถูกทำร้ายแล้วหายสาปสูญไปเหรอคะ ส่วนเราไม่มีค่ะแต่เหตุผลที่สลดใจอย่างที่บอกข้างต้นล่ะ
แยกแยะด้วยค่ะตอน พธม. ทำกะครั้งนี้คนละพวกกัน ตอนนั้นมีแต่ตำรวจเท่านั้นที่โดนทำร้ายจาก พธม. ครั้งนั้นตำรวจ ทหาร (ส่วนมากฝีมือตำรวจ) ใช้แก๊สน้ำตาปราบปราม ไม่ได้ใช้เอ็ม 16 รัวยิงแบบครั้งนี้ ครั้งนั้นว่าโหดมากใช่ป่ะคะ แต่ครั้งนี้วิธีปราบปรามโหดกว่า ก็อย่างที่รู้และเห็นๆ ก้นอยู่และครั้งนั้นทุกอย่างก็เงียบหายไปเหมือนหมอกควัน ส่วนทหารตอนนั้นเท่าที่เห็นยืนมอง นั่งมองเพราะเท่าที่ทราบ ผบ.การไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่แล้ว (เลยไม่ร่วมมือในการปราบปราม) อีกอย่างเราเองก็ลูกหลานทหารแต่ทำไมไม่เข้าข้างทหารล่ะ...นั่นเพราะรับไม่ได้กับทหารบางคนและทหารที่ตัดสินใจทำแบบนี้ด้วย เราประนามค่ะ...เลว.. ทุกสิ่งที่เขียนเรามีเหตุผลบนความถูกต้องค่ะ...
ไม่คิดจะเถียงใครเมื่อทุกคนมีเหตุผลเราก็มีเหตุผลประกอบ แล้วแต่ใครจะเชื่ออย่างไร ไม่ว่ากันค่ะ และอีกอย่างขอค้านเรื่องปราบปรามโดยละมุนละม่อมมากๆ เลยค่ะ หัวร้างข้างแตก ไล่ตีหัว แม้คนแก่อายุ 70 ได้แล้วยังเลือดอาบเดินเลือดโชกให้สื่อทั่วโลกนำไปประจานถึงการปราบปรามจราจลไทยของรัฐบาลนี้ ไร้เมตตาธรรมสิ้นดี...และอย่างที่เขียนเผอิญอีกล่ะค่ะที่ตัวเองจำคำพูดใครบางคนได้ว่าอย่าทำร้ายประชาชนให้ฟังเสียงประชาชนอะไรแบบนี้ แล้วคราวนี้เค้าฟังเสียงมั๊ยคะ ....ขอชี้แจงตามนี้และไม่ต้องการให้ใครมาเชื่อด้วยค่ะและอย่ามาเชื่อบล๊อกนี้ค่ะไม่รู้ว่าไปเอาเรื่องไร้สาระไม่มีสาระมาจากที่ไหนมาเขียนให้อ่านกัน...จนกว่าทุกอย่างจะกระจ่างไม่ช้าก็เร็วค่ะ ยังงัยก็ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะที่แวะมาคอมเมนท์ได้พูดคุยกันถึงจะแตกต่างกันทางความคิดแต่ไม่มีใครผิดหรือถูกที่คิดแตกต่างกันค่ะ...
15 เมษายน, 2009 11:20
อ่อ..ขอแก้และเพิ่มเติมคำที่ตกหายไปค่ะ....ตรงที่สิ่งที่เค้าบอกตกคำว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราคิดก็คือ....
15 เมษายน, 2009 11:40
และนี่คือ คอมเมนท์ที่ผู้หมวดเข้ามาคอมเมนท์ และเข้ามาอีกครั้งเพื่อคอมเมนท์เป็นครั้งที่สองหลังจากที่ได้มีการคอมเมนท์ของเจ้าของบล๊อก เพื่ออธิบายในความเห็นที่แตกต่างกัน :-
คนไทยด้วยกันแท้ๆทำไมต้องฆ่ากันด้วยนะ ไม่ว่าจะเสื้อสีอะไรแต่กลับต้องมาตีกันเองจนบาดเจ็บล้มตาย ผมก็รู้สึกไม่ดีทั้งนั้นแหละคับ
แล้วยิ่งวันนี้บรรดาเพื่อนๆผมหลายๆคนที่มีความคิดและความเชื่อตรงข้ามกับเสื้อแดง กลับพูดว่า "ตายห่ากันให้หมด" "น่าจะตายให้เยอะกว่านี้" "ตายซะได้ก็ดี" และ "ฆ่าแม่งให้หมด" ....
นี่ตกลงไม่มีประเทศไทยแล้วใช่มั้ยคับ มีแต่ประเทศเหลือง ประเทศแดง พวกที่บาดเจ็บล้มตาย ไม่ใช่คนไทยเหรอ ทำไมแค่ความคิดทางการเมืองและความเชื่อที่ต่างกัน ถึงกับฆ่าให้ตายกันไปข้างนึงเลยเหรอ
ความรุนแรงของเหตุการณ์ ความร้อนแรงของการต่อสู้กันด้านการเมือง และอุดมการณ์ มันเปลี่ยนคนให้กลายเป็นฆาตกรแล้วใช่มั้ย
จิตสำนึกหายไปไหนกันคับ สะกดคำว่า ประนีประนอม ไม่ถูกกันแล้วหรือไง ทำไมคิดแต่จะฆ่าๆๆๆกัน ทั้งที่คนที่คุณอยากฆ่า เขาก็คนไทย เขาก็รักชาติ เขาก็เลือดสีเดียวกับพวกคุณ
ผมขอร่วมประนามการกระทำของรัฐบาลในครั้งนี้ด้วยคนคับ น่ารังเกียจและหน้าตัวเมียที่สุด
14 เมษายน, 2009 20:18
และอีกอันที่ผุ้หมวดเข้ามาคอมเมนท์ :-
ผมเองก็เป็นทหาร ผมยังไม่เห็นด้วยกับการที่ทหารปฏิบัติการครั้งนี้เลยคับ เพราะมันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดกับการปฏิบัติการเมื่อครั้งจัดการกับพวก พธม.
-ถ้าบอกว่าตอนยิงขู่ขึ้นฟ้าใช้กระสุนจริง แต่ตอนยิงคนใช้กระสุนกระดาษ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องเบิกกระสุนจริงมาแต่แรกแล้วคับ กระสุนปืนเปล่าก็ได้ มีเสียงเหมือนกัน เอากระสุนจริงมาทำอะไร?
-สมัยพธม.จำกันได้มั้ยคับ ตำรวจ-ทหารมีอะไร โล่ กระบอง แกสน้ำตา อ้อ....หลังๆถูกด่าว่ารุนแรงกับประชาชนเลยให้ใช้โล่เปล่าๆ แล้วมาครั้งนี้ใช้m-16 และรถถัง ไม่แรงใช่มั้ยคับ? แต่เสื้อแดงมีอะไร มีไม้ กระบอง กับอะไรที่ใกล้ๆมือพอจะคว้าได้ อ้อๆ มีน้ำมันก๊าดใส่ขวดลิโพที่บอกว่าเป็นระเบิดเพลิง จริงๆก็ไม่ใช่ระเบิดหรอกคับ และมันจะไม่เป็นปัญหาใหญ่เลย ถ้าปราบจลาจลแบบปกติ โล่ กระบอง แกสน้ำตา และ.."รถฉีดน้ำ"
-มีรายงานว่าทหารบาดเจ็บถูกยิง ผมเองก็เสียใจ แต่ได้ดูอีกข่าวมั้ยคับว่ามีคนเสื้อแดงถูกอะไรก็ไม่รู้ทะลวงหน้าอกตัดเส้นเลือดใหญ่ทะลุเป็นรู อะไรก็ไม่รู้เนอะแถมไม่ยอมให้ดูรอยทะลุที่ด้านหลังด้วย ใครเป็นทหารหรือเคยยิงปืน .223 หรือเรียนรด.เห็นปากแผลก็คงเดาได้ไม่ยากเย็น
-ส่วนเรื่องอุปกรณ์บันทึกภาพ ผมว่า...ถ้าเขาตั้งใจจะถ่ายอย่างเดียวก็คงจะมีภาพหรอกคับ มือถือทุกคนมีอยู่แล้วที่ถ่ายภาพได้ แต่...ตอนทหารวิ่งเข้ามาพร้อมยิงปืนไปด้วยยังจะยิงถ่ายอยู่เหรอคับ? เป็นผม..ผมเผ่นนะยิ่งถ้ามีขวดน้ำมันก๊าดในมือ ผมโยนแน่เพื่อไม่ให้เข้าใกล้ผมได้ เรื่องของเรื่องมันอยู่ที่ว่านักข่าวถ่ายทำข่าวอยู่ข้างทหารคับ เขารู้เขาได้ยินคำสั่งและการปฏิบัติการทุกอย่างดี แต่เสื้อแดงเขามีโอกาสรู้ด้วยเหรอคับ ช่องระยะห่างที่ประจันหน้ากันมันก็ไม่ใช่ใกล้ๆกันนะ
ผมไม่เห็นด้วยกับเสื้อแดงเหมือนกันที่ทำลายสาธารณะสมบัติซึ่งมาจากเงินภาษีของคนไทยด้วยกัน รวมทั้งการทำร้ายร่างกายชุมชนชาวแฟลทดินแดง และบุกทำลายมัสยิด แต่ผมมองว่านาทีนั้นสถานการณ์มัน out of control แล้วคับ มันควบคุมไม่ได้ตั้งแต่ให้ทหารใช้อาวุธสงครามแล้ว ลองมองมุมกลับบ้างมั้ยคับ คุณเป็นเสื้อแดง คุณมีแต่น้ำมันก๊าดบรรจุขวด ยืนประจันหน้ากับทหารเป็นกองร้อย ทุกคนมีปืนครบมือเป็นคุณ คุณกลัวตายมั้ย? อย่าเพิ่งไปคิดถึงว่าถือปืนเปล่า หรือกระสุนกระด่งกระดาษบ้าบออะไรนั่น แค่เห็นปืนมันก็เป็นการแสดงการคุกคามแล้วคับ มันไม่ใช่การมาอย่างสงบแล้ว แล้วสมัยพธม.เขาทำยังยัง? เขาใช้แค่โล่แล้วก็พยายามพูดๆๆๆประนีประนอม "ไม่ใช่บรรจุกระสุนจริงแล้วทำยิงขึ้นฟ้าเหมือนไล่ราวสัตว์ในป่าแบบนี้" เป็นคุณจะสติแตกมั้ยทหารดาหน้าเข้ามาเสียงปืนก็ยิงโป้งเป้งๆบ่งบอกว่ากระสุนจริง ยิงจริง คุณจะไม่ตอบโต้บ้างเหรอเพื่อชีวิตของคุณเอง สถานการณ์มันชุลมุนแบบนี้แหละคับ แล้วยิ่งผสมด้วยความโกรธของชุมชนชาวแฟลทที่ไปทำให้เขาเดือดร้อน การทำร้ายร่างกายกันโดยไม่จำเป็นก็เกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ในสถานการณ์ชุลมุน ความกลัวตาย ความโกรธ แถมด้วยอาวุธในมือ และขาดสติ ช้างก็ตัวเท่าแมวแล้วคับอารมณ์นั้น
แน่นอนว่าการกระทำของเสื้อแดงก็รุนแรงและก่อให้เกิดความเสียหายมากมายและเป็นความผิดอย่างมากด้วย ผมไม่เห็นด้วยเลยกับเสื้อแดงในข้อนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามการกระทำแบบนั้นรังแต่จะทำให้เหตุการณ์มันเลวร้ายลงไปมากกว่าจะส่งผลดี
แต่ที่ผมรังเกียจและประนามยิ่งกว่าคือการที่รัฐบาลเลือกปฏิบัติกับประชาชนในครั้งนี้ เลิกทำยิ้มปัญญาอ่อนแล้วโกหกตาใสได้แล้วคับ ถ้าเพียงแต่คุณปฏิบัติมาตรฐานเดียวกันผลคงไม่เป็นอย่างนี้ กับรัฐบาลก่อนนี้คุณพูดว่าอะไร ถ้าเป็นคุณประชาชนต่อต้านขนาดนี้คุณยุบสภาไปแล้ว ใช่มั้ย? แล้วตอนนี้ถึงตาคุณบ้างคุณทำยังไง คุณกระทำรุนแรงกับประชาชน คุกคามประชาชน ผมรู้คุณสามารถอยู่แล้วเรื่องกลืนน้ำลายตัวเองเพราะคุณไม่กล้าพอจะยุบสภา และด้วยความยินดีอย่างยิ่งที่ตอนนี้คุณได้ชื่อว่า "ฆาตกร" ด้วยคับ
สุดท้ายพอสักทีได้มั้ยไอ้คำว่า "ตายซะได้ก็ดี" "โง่นักก็ตายซะ" "น่าจะตายเยอะกว่า" "ตายกันไปให้หมด" ไปไหนก็ไปเลยคับไปอยู่ประเทศอื่นชาติอื่นที่คุณปรารถนาเลย แต่ต้องไม่ใช่แผ่นดินไทย อย่ามาเป็นคนไทยให้เสียชาติเกิด ที่นั่งหัวเราะดีใจที่เห็นเพื่อนร่วมชาติต้องตาย เพียงเพราะเขามีมุมมอง ความคิด และอุดมการณ์แตกต่างจากพวกคุณ ผมรวมทั้งเสื้อแดงที่สะใจเวลาเสื้อเหลืองตาย และเสื้อเหลืองที่สะใจเวลาเสื้อแดงตาย และทุกๆสีที่สะใจเมื่อเห็นคนไทยฆ่ากันตาย กลับไปมองดูกระจกแล้วถามตัวเองนะคับ "ยังเป็นคนไทยอยู่หรือเปล่า?"
15 เมษายน, 2009 20:01
เอามาฝากค่ะ จาก รายงานคู่ขนาน 13 เมษายน 52
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
http://thaienews.blogspot.com/2009/04/13-52.html
ในหลายๆ ครั้งที่เราสองคนมีเรื่องถกเถียงเรื่องต่างๆ รอบตัวในหลายๆ เรื่อง ที่มีความคิดเห็นตรงกันบ้าง ไม่เห็นพ้องต้องกันบ้าง แต่ในที่สุดก็จบและลืมกันไป ในบางเรื่องที่หาข้อยุติไม่ได้ ก็แค่หยุดทิ้งหัวข้อกันไว้อย่างนั้น ให้วันเวลาต่างๆ เป็นตัวช่วยและตัดสิน..จนทุกวันนี้วิธีการนี้เราสองคนใช้มาตลอด มีอะไรเราก็พูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ มีชอบใจบ้าง ไม่ชอบใจบ้างเวลาความเห็นแตกแยก แต่เราก็ไม่เคยเก็บเอามาเป็นอารมณ์..เพราะเรายังต้องคบกันไปอีกนาน...สิ่งต่างๆ รอบตัวนี้จึงไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์อันดีที่เรามีต่อกันได้...แต่วันนี้ขอบคุณและดีใจค่ะ ที่ผู้หมวดเข้าใจในสิ่งที่เจ้าของบล๊อกทำและเขียน และที่สำคัญเห็นด้วยว่าเป็นอย่างนี้ โดยไม่ได้พูดคุยหรือนัดหมาย และอีกทั้งเป็นอุปนิสัยของผู้หมวด ซึ่งจะเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ไม่ว่าใครจะกรอกหูยังงัยเป็นคนมั่นใจในตัวเองจนน่าเฉือนให้กากิน ดื้อก็ที่หนึ่ง แต่ก็ไม่เอาแต่ใจ เพียงแค่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งเท่านั้นเอง...55555 (มีแอบว่า "นิดส์ส์ส์..นึง")ทุกวันนี้เราจึงคบกันมาด้วยความเข้าใจในตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน จึงไม่ค่อยมีเรื่องราวหวานแหวว หรือเรื่องราวเราสองคนอะไรมากมาย เพราะตั้งแต่คบกันมารู้จักกันต่างคนก็เป็นแบบนี้กันมาตลอดเคยเป็นยังไงก้เป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยน ก็เลยไม่มีเนื้อหาอะไรเพิ่มเติมในการคบกัน เรื่อยเฉื่อยแบบนี้...แม้ยามที่ไม่ค่อยได้เจอะเจอกันเพราะต่างคนต่างมีธุระส่วนตัวความจำเป้นส่วนตัว แต่เราก็ยังมีความรู้สึกเหมือนเดิม ปกติธรรมดาไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงคิดถึงกันและรักกันแบบนี้ซึ่งเป็นแบบของเราสองคน...คือ รักและเข้าใจ...
เก็บบทความมาฝากค่ะ อ่านแล้วคิดตามบ้างค่ะ
ไม่สำคัญว่า..
...มีทรัพย์มากหรือน้อย
แต่สิ่งสำคัญคือ...
...ต้องใช้ให้น้อยต่างหาก..
...ชีวิตจึงจะมีเหลือมากกว่าขาด...
คนจนยิ่งจน...เพราะทำรวย...
คนรวยยิ่งรวย...เพราะทำจน..
...ทำตัวให้เป็นปกติ..
...ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น..
...ชีวิตก็จะเป็นปกติ
ไม่ยินดีในสิ่งที่ตนได้
ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี
...เป็นคนอาภัพอับโชคที่สุดในโลก
ยินดีในสิ่งที่ตนได้
พอใจในสิ่งที่ตนมี
...เป็นคนโชคดีที่สุดในโลก
อดทนได้...จงอดทน
อดใจได้....จงอดใจ
...ไม่อดทน ไม่อดใจ
...เรื่องเล็กจักกลายเป็นเรื่องใหญ่
คนที่มีความสุข
มิใช่คนที่มีมากที่สุด
...แต่เป็นคนที่ต้องการน้อยที่สุด
...ยิ่งมีความต้องการน้อยลง
...สมบัติที่มีอยู่เดิม
...ก็ดูเหมือนมีมากขึ้น...
ความสุขหรือความทุกข์ของชีวิต
บางครั้งเหมือนการมองผ่านกระจก
...หากกระจกใสสะอาด
...เมื่อมองสิ่งใดย่อมมีแต่ความสุข
...ปราศจากความขุ่นมัว
...หากกระจกขุ่นมัว เมื่อมองสิ่งใด
... แม้เป็นสิ่งเดียวกัน...ก็มีแต่ความทุกข์ใจ
จงจำไว้ว่า..
...ความสุขอยู่ไม่ไกล
...เพียงเช็ดกระจกให้ใส
...เช็ดใจให้สะอาดเท่านั้นเอง..
ทุกข์อยู่ที่ใจ...
...ทุกข์ของใครก็ของมัน..
ทุกข์อยู่ที่ใจ...
...ใครจะเก็บไว้ก็ช่างมัน...
สุขอยู่ที่ใจ...
...ฉันเก็บมันไว้ทุกวัน..
สุขอยู่ที่ใจ...
...ฉันจะให้กันและกัน....
เวลา..ทำให้ความสุข
ของฉันผ่านไป..
แต่..ความสุข..
จะเป็นความประทับใจ
ของฉัน..ตลอดกาล...
คนน่ารักเข้ามา
เริ่ม 20/3/52
ใจสั่งมา
หากว่าเธอผ่านมาได้ยิน เพลงนี้
คาดว่าเธอก็คงรู้ดี ว่าเป็นฉัน
มอบให้เธอคนเดียว อาจไม่เกี่ยวแต่สำคัญ
เพราะฉัน นั้นอยากให้เธอได้ฟัง
ที่เฝ้าแต่โทร โทรไปหาเธอ เรื่อยเปื่อย
เหนื่อยก็ยอม ก็ใจชอบเธอ ไม่เบา
แต่ใจเจ้ากรรมไม่รู้เลย ว่าเธอไม่ชอบเรา
ไม่สนและไม่เอา ไม่อยากคุย
ก็เลยมาร้องเพลงบอก แค่อยากให้เธอนั้นเข้าใจ
ไอ้สิ่งที่ฉันทำลงไป ใจสั่งมา
อย่าโกรธเลยน้าคนดี ยกโทษให้ฉันนะแก้วตา
คราวหลังจะไม่มา จะไม่โทร
ก็เลยมาร้องเพลงบอก แค่อยากให้เธอนั้นเข้าใจ
ไอ้สิ่งที่ฉันทำลงไป ใจสั่งมา
อย่าโกรธเลยน้าคนดี ยกโทษให้ฉันนะแก้วตา
คราวหลังจะไม่มา จะไม่โทร
และสุดท้ายที่ในหัวใจ มันร่ำร้อง
อยากจะมอง จะมองหน้าเธอ อีกซักที
ก่อนจะลา เธอไป คนใจดำหน้าตาดี
ขอโทษเธอซักที จากหัวใจ
แต่มีหนึ่งคำ ที่ยังค้างคาใจ
คำพูดลูกผู้ชาย ฉันชอบเธอ
เอ่อ...เขินนะเนี่ยเล่นชมกันอย่างนี้แหะๆ ผมแค่เกลียดความไม่ยุติธรรมและความลำเอียงเท่านั้นเองคับ
ตอบลบอีกอย่างถึงแม้คนเราจะมีที่ฆ่ากันเพราะเกลียด เพราะเงิน เพราะความรัก ฯลฯ แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยที่จะมาฆ่ากันเองเหมือนสงครามล้างบางกันแบบนี้เพียงเพราะความเห็นและอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
ทำไมผมกับเพื่อนไม่เห็นจะมานั่งกระทืบกัน หรือยิงกันให้ตายไปเลยล่ะ เพราะผมเกลียดไอ้ลิ้มสุดๆ แต่ผมไม่เกลียดคนที่เข้าข้างเสื้อเหลือง นั่นเพราะเขาเชื่อมั่น เขาศรัทธาว่าเขาเป็นฝ่ายถูก เหนือยิ่งไปกว่านั้นเขาศรัทธาเสื้อเหลืองเพราะเขาจงรักภักดี ผมมีเหตุผลอะไรจะต้องไปเกลียดเขา แค่ความเชื่อและมุมมองเราไม่ตรงกัน? สิ่งที่ผมกับเพื่อนทำในกรณีที่ไม่สามารถคุยกันด้วยเหตุผลได้เพราะต่างคนต่างเชื่อคนละอย่างนั่นก็คือเลิกพูดถึงมันคับ เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นแทน เพราะเรารู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของเรามันมีค่ามากกว่าจะต้องมาแตกคอเพียงเพราะเรื่องการเมือง
ผมก็ไม่ได้ชอบทักษิณเลยเช่นกัน และเสื้อแดงเขาออกมาก็เพราะเขาก็จงรักภักดีเหมือนกัน เขาเองก็เชื่อว่าเขาถูก ในเมื่อ2ฝ่ายมีจุดร่วมเดียวกันแล้วจะฆ่ากันทำไมคับ?
ตอนนี้ประเทศเราแตกแยก ต่างชาติก็พยายามรุกราน ทั้งจากทางใต้ ทั้งจากกัมพูชา แล้วเรายังจะมาตีกันเองให้พวกมันอาศัยจังหวะทับถมซ้ำเติมอีกเหรอคับ
สรุปแล้วคนที่ฆ่ากันตายก็มีแต่ประชาชนธรรมดาเท่านั้น พวกแกนนำ หัวเรือใหญ่เขาไม่ได้มาเจ็บเนื้อเจ็บตัวหรือล้มตายไปด้วยเลย
ผมฟังมามากแล้ว บ้านผมติดastv ครอบครัวผมเสื้อเหลืองทั้งบ้าน มันล้างสมองชัดๆ ตอนให้ประชาชนยึดทำเนียบ บุกรัฐสภา ไอ้แกนนำที่แหกปากปาวๆว่าจะอยู่เคียงข้างเป็นแนวหน้ากอดคอกันน่ะ ถึงเวลามันไปแอบหลบข้างหลัง คนรับเคราะห์ก็มีแต่วัยรุ่นที่น่าสงสารที่หลงเชื่อมัน แล้วมันต่างกันมั้ยคับกับพอถึงทีเสื้อแดง เสื้อเหลืองก็มาด่าๆๆพวกแกนนำเสื้อแดงว่าหัวหด?
คิดถึงนะคับคนดี จุ๊บๆๆๆ ^^
อ่านแล้วแอบเครียด ^^"
ตอบลบ