
วันก่อนบินไปทำงานที่อุบลฯ ไม่อยากไปเลยแต่ก็ต้องไป ด้วยเป็นคนจัดและเป็นคณะทำงานตัวแทนของสำนักงานในพื้นที่นี้ มีปัญหานิดหน่อยระหว่างเครื่องลดความดัน ตัวเองปวดหัวอย่างรุนแรง ทั้งที่นั่งเครื่องมาเป็นสิบๆ เที่ยวได้แล้วไปเหนือ ใต้ อีสาน ไปมาหมดแล้ว ก็เกิดอาการ งง ว่าเกิดอะไรขึ้นกันนะถึงได้ปวดหัวขนาดนี้จนทนเกือบไม่ได้...คิดเอาเองว่าอาจจะเป็นปัญหาจากเมื่อ 8 เดือนก่อนที่บินไปอุบลฯ ที่ไม่สบายอย่างหนัก เกิดจากการอักเสบของหู ที่ก่อนวันที่จะบินไปได้ไปเที่ยวชายทะเลกับเพื่อนๆ ที่ทำงานแล้วลงเล่นน้ำแบบลืมตัวไปนิดสำลักน้ำ น้ำเลยเข้าหูและปาก อีกสองวันก็ต้องบินไปทำงานที่อุบลเลยไปนอนจับไข้ไม่ได้ทำงานอะไรนอนเฝ้าห้องซะงั้นล่ะ มีคนพาไปหาหมอหู ตา คอ จมูกที่นั่น เสียค่ายาไปเฉียดพัน..5555...ไม่คุ้มกับเบี้ยเลี้ยงที่ได้...กลับมา กทม. ก็ต้องนอนซมรักษาตัวต่อไป ก็คิดว่าหูน่าจะหายดี แต่ก็ไม่ปกติเท่าไร พอเที่ยวนี้ต้องบินไปอีกก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่พอมีก็คิดว่าน่าจะเป็นเพราะหูหรือเปล่า พี่ที่ไปด้วยถามว่า อดนอนมาหรือเปล่า...คิดได้ว่าจริงด้วย คืนนั้นนั่งเตรียมงานเพื่อไปพรีเซนส์จนถึงเช้าได้นอนตอนเช้า ช.ม กว่าๆ เองก็ต้องตืนเตรียมตัวบินไปทำงาน...ขากลับต้องบอกและถามพนักงานต้อนรับบนเครื่องบอกเล่าอาการให้เค้าฟัง เค้าบอกว่าไม่เคยเจอเคสนี้ เลยบอกว่ามีคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะอดนอน เค้าเลยบอกแบบนี้ต้องลองดูครับ...นะ...ลองดูก็ลองดู..ทำไงได้จองตั๋วไปกลับแล้วนี่นา..เค้าถามว่าแล้วเที่ยวนี้พักผ่อนมาเต็มที่หรือเปล่าครับ ก็บอกว่าหลับสนิทพักผ่อนเต็มที่ค่ะ...ผลปกติทุกอย่าง...ต้องขอบคุณกับความเอาใจใส่ของพนักงานการบินไทยที่มาสอบถามหลังจากเครื่องแตะรันเวย์ว่ามีอาการอะไรมั๊ย..แล้วก็แสดงความดีใจที่เราปกติดีทุกอย่าง..แต่เพื่อนที่ไปด้วยกลับเมาเครื่องแทน ทั้งที่ตอนมาไม่มีอาการอะไร....55555....(ขำเพื่อนค่ะ)
เมื่อก่อนเวลาบินไปทำงานต่างจังหวัดจะต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งตัวเองจะสะดวกกว่าจะไปขึ้นที่สุวรรณภูมิ แต่ตั้งแต่หลังวันที่ 29 มี.ค 52 ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมดไม่ว่าสายใน หรือ นอกประเทศ ไกลมากค่ะขอบอกจากบ้านหมดค่าแท๊กซี่ไป 6 ร้อยกว่าบาทเบิกคืนได้แค่ 6 ร้อยเต็มอัตราศึกนอกเหนือจากนั้นเราต้องออกเอง..แต่ขากลับนั่งแท๊กซี่ได้ถูกกว่านิดหน่อยทั้งที่มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม 50 บาทเพราะเป็นแท๊กซี่ต่อคิวของสนามบินที่มีไว้บริการผู้โดยสาร การนั่งแท๊กซี่เที่ยวนี้ทำให้ตัวเองค้นพบทางสะดวกในการไปสนามบินสุวรรณภูมิ ย่นระยะทางและเวลาเป็น ช.ม ขาไปใช้เวลาในการเดินทาง 2 ช.ม กว่าๆ โดยประมาณ แต่ขากลับใช้เวลาแค่ 45 นาทีก็ถึงบ้านแล้ว และการค้นพบเส้นทางนี้ทำให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ใช้เส้นทางนี้เดินทางไปฉะเชิงเทรา ไปไหว้หลวงพ่อโสธรและไปเที่ยวตลาดน้ำบางคล้าใช้เวลาไม่ถึง 2 ช.ม ทั้งที่ขากลับหลงวนไปศรีนครินทร์เข้ารามแล้วกลับมาขึ้นทางด่วนแถวลาดกระบังเหมือนเดิม...55555...ขับรถชมวิวกันเล่นๆ ว่างั้นเหอะ แต่ก็กลับมาทันดูหนังเกาหลียอดฮิตทันแฮะค่ะทั้งที่ออกจากฉะเชิงเทราเกือบห้าโมงได้แล้ว
สำหรับคนที่ไปสนามบินสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรกดูออกจะ งงๆ นิดหน่อยเพราะมีหลายชั้นหลายฟลอร์ เวลานัดเจอกันบางคนก็จำไม่ได้ว่าชั้นไหนที่รถจอดส่ง และเป็นชั้นที่ต้องเดินทางออกไป บางคนจำได้ว่าชั้นโน้นชั้นนี้ เถียงกันไป แต่ในที่สุดเมื่อไปถึงจริงๆ รถจอดส่งตรงไหนก็คือชั้นนั้นล่ะ...55555..เป็นชั้นสำหรับขาออกไม่ว่าในประเทศ หรือต่างประเทศ ระหว่างนั่งรอก็นั่งดูโน่นดูนี่ระลานตาไปหมด สังเกตได้ว่านักท่องเที่ยวหายไปเยอะโดยเฉพาะฝรั่งผมทอง เกาหลี ญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยเห็น ที่เห็นจะน้อยมาก มีบ้างประปราย ยิ่งใกล้เที่ยวบินเข้า-ออก จะเห็นผู้คนเดินกันขวักไขว่ไปหมด ทำให้ไม่เหงาระหว่างรอคอยเพื่อนผู้ร่วมเดินทาง หยิบกล้องคู่ใจเป็นกล้องโซนี่รุ่นติ๊งต๊องส์ ใช้งานง่ายพวก cyber-shot ของตัวเองเป็นรุ่น DSC T2 ที่ซื้อมานานมากแล้ว แต่เวลาไปไหนมักจะลืมเอาไปทุกทีไม่รู้ทำไม อาจเป็นเพราะไม่ค่อยติดกล้องแบบนี้มันเกะกะ ถึงจะเป็นกล้องที่เล็กและบางระบบสัมผัสก็ตามที แต่ก็ไม่ค่อยชอบใช้เท่าไร เวลาจะถ่ายอะไรก็จะใช้กล้องจากมือถือโนเกีย N73 ทุกทีสิน่า แต่ตอนนี้ N73 สีเริ่มเพี๊ยนข้อมูลเริ่มรวนๆ นิดหน่อย ใช้ซัมซุงตัวใหม่ถ่ายแทนก็ไม่ถูกใจ ภาพและสีออกมาพิกลๆ อยู่ ตอนนี้เลยต้องหันมาใช้กล้องโซนี่แทน จะใช้แคนนอนก็ดูเทอะทะเวอร์ๆ และดูเหมือนมืออาชีพไป ที่สำคัญเป็นกล้องที่เล่นยากสำหรับตัวเอง อีกอย่างไม่ค่อยถนัดมือเพราะเป็นกล้องที่มีน้ำหนักพอสมควร เวลาสะพายก็เกะกะพิลึก เลยไม่นิยม คนในบ้านเลยสบายไปเลยเอาไปยึดครองเป็นสมบัติส่วนตัวไปซะแล้ว...55555....
ขณะนั่งรอเพื่อนแหงนมองเพดาน เห็นเมฆลอยไปลอยมาชอบจังเลยแต่ไม่ชอบโครงเหล็กมันดูรกๆ ตายังไงชอบกลไม่รู้ เมื่อยก็เดินลงบันไดเลื่อนลงไปดูอาหารการกินชั้นล่างก็แหงนดูเพดานเห็นท่อเต็มไปหมด สังเกตไปสังเกตมา อ่อ..เป็นท่อที่ติดกับสปริงเกอร์...มองแล้วมองอีกจนแน่ใจว่าใช่แน่ๆ ถ้าหากไม่ใช่ใครรุ้บ้างเอ่ย ช่วยเฉลยด้วยค่ะ...ลืมถ่ายรูปมาอ่ะค่ะ
เมื่อถึงอุบลฯ เข้าที่พักเรียบร้อยในห้องพักจะมีมะลิต้อนรับอยู่บนหมอนพร้อมคำราตรีสวัสดิ์ และมีผลไม้เป็นส้มเขียวหวาน 2 ผลกับกล้วยน้ำว้า 1 ลูกก็ งง ทำไมให้กล้วยลูกเดียวเพราะพักสองคนไม่กล้าหยิบกิน เพราะทุกอย่างที่บอกซีนอยู่ในกระบุง แต่วันรุ่งขึ้นก็เสร็จเพื่อนร่วมห้องจนได้แล้วเค้าถึงค่อยมาเฉลยว่า วันแรกไม่กล้ากินเพราะเคยไปที่ไหนสักแห่ง เค้าทำแบบนี้เพื่อเซ่นไหว้อะไรสักอย่างเค้าเลยไม่กล้ากิน แต่เมื่อคืนเค้าเห็นพี่ที่ไปด้วยนั่งแกะส้มกินหน้าตาเฉย วันนี้เค้าก็เลยกล้าแกะกินส่วนเราไม่กินเพราะไม่ชอบผลไม้ทั้งสองอย่างนี้ มื้อแรกที่ไปถึงของโรงแรมเป็นอาหารเช้าเลือกไข่กะทะ กับต้มเส้นหรือที่นี่เค้าเรียกว่า ก๋วยจั๊บญวน น้ำส้ม 1 แก้วและน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ 1 ตัวอยู่ท้องแล้วเห็นเพื่อนๆ กินกันระเบิดระเบ้อเห็นแล้วอึดอัดแทน...เพราะเดี๋ยวมื้อกลางวันก็ต้องทานอีกและระหว่างมื้อเช้ากับมื่อเที่ยงก็ยังมีอาหารว่างอีก ขืนทานเยอะและทานทุกมื้อ ท้องแตกตายพอดี..
ทำงานเสร็จก็เย็นมากแล้ว แต่อย่างนั้นก็ยังมีเวลาไปไหว้พระที่พระธาตุหนองบัว เป็นพระธาตุขึ้นชื่อของ จังหวัดนี้ไปทุกครั้งหัวหน้าและเจ้าหน้าที่ที่นี่จะพาไปไหว้ทุกครั้งล่ะ...ไปเที่ยวนี้ไม่ได้ไปไหนเลย...เพราะไม่มีเวลาส่วนตัวกว่าจะทำงานเสร็จก็เย็นมากแล้ว เดี๋ยวก็ใกล้เวลาต้องทานข้าวตามนัดกันไว้ เที่ยวก่อนยังได้ไปดูเสื้อผ้า พวกผ้าทอ ผ้าไหม กระเป๋า เที่ยวนี้หัวหน้าพาลูกน้องเข้าวัดไปสงบจิตสงบใจซะงั้น...แบบว่ากลัวลูกน้องเครียด...555555....
ถ้าใครได้ไปอุบลขอแนะนำร้านอาหารที่บรรยากาศดี อาหารอร่อยทุกจาน แต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรบ้างเพราะมีหน้าที่กินอย่างเดียว...ชื่อร้านนี้ว่า "บ้านกลางซอย" เป็นร้านของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เปิดร้านเป็นอาชีพเสริม ก็นั่งนินทากันว่า โห...ร้านแบบนี้ ลาออกมาทำร้านอย่างเดียวก็รวยเละแล้วไม่ต้องรับราชการหรอกเนอะ...เท่าที่เห็นคนแน่นร้านไม่ขาดสายเลยทั้งที่เลยกลางเดือนเกือบปลายเดือนได้แล้ว พอได้ชิม...ถึงได้รู้เหตุผลว่าทำไมคนถึงแน่นร้าน....
ไม่ได้เอารูปขณะปฏิบัติงานมาลงเพราะเป็นความลับของทางราชการไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้...เลยมีแต่รุปที่ดูเหมือนไปเที่ยวซะมากกว่าจะไปทำงาน แต่ก็ขอบันทึกไว้ตรงนี้แล้วกันค่ะ...
ทางไปสนามบินทางนั้น สงสัยจะผ่านบ้านกี้นะคะ ^^
ตอบลบสุวรรณภูมิไกลมากกก
ตอบลบไกลซะจน เวลาเดินทางกลับไทย เพื่อน ๆ ขี้เกียจมารับมาส่ง เปลือง
โอ้ว...ร้านน่านั่งมากคับ ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวอุบลฯคงต้องขอแวะสักหน่อย
ตอบลบช่วงนี้พี่ต้องเดินทางบ่อยๆ อากาศก็ไม่ค่อยดีซะด้วย รักษาสุขภาพด้วยนะคับ
รักนะคับ ^^