เฮ้อ!! น่าเสียดายอุตส่าห์เขียนเล่าความจริงบนความฝัน หรือความฝันบนความจริงหว่าคะแต่ดั๊นหายหมดซะนี่....55555....เรื่องข่าวดี(จริงหรือ)สำหรับคนมีที่ดิน กับคนที่มีมรดก จะต้องเสียภาษีถ้าหาก ก.ม นี้ผ่าน ยังงัยก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้านะคะ..หึ หึ หึ (หัวเราะแบบขมขื่น)อ่อ..ขอแสดงความยินดีอีกเรื่อง คือ พวกเราจะเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัวอีกแล้วเพราะได้ข่าวว่ากำลังจะมีการกู้เงินจาก ตปท.มาลูบหน้าป่ะจมูก..เอ๊ย..มากู้เศรษฐกิจของประเทศ ที่(อ้าย)พวกยึดสนามบินมันสร้างความฉิ..หายทิ้งไว้ (วันนี้ต้องขอโทษ ทีมีอักษรบางคำดูกร้าวๆ ไปบ้างค่ะ)ถ้าใครยังจำภาพเมื่อสิบปีก่อนที่พวกเราต้องเป็นหนี้รายหัวละเป็นหมื่นเพราะรัฐบาลสมัยนั้น (น่าจะคุ้นนะสมัยไหน)กู้ IMF อ้างทำนองเดียวกัน เหตุการณ์วันนี้จึงดูคุ้นๆ ยังไงไม่รู้และนึกแล้วว่าสักวันไม่นานจะต้องเป็นแบบนี้...งาบได้เป็นงาบ เขมือบได้เป็นเขมือบแม้แต่ปลากระป๋องเน่าๆ ที่ประกาศเอาหน้าเอาตาว่าไปช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก แต่สุดท้ายเน่ากลิ่นโชยมาเป็นระยะ ด้วยคำพูดปัดความรับผิดชอบโยนความผิดให้คนโน้นทีคนนี้ที...เค้าว่ากันว่าผลประโยชน์มันไม่เข้าใครออกใคร ใครขวางทางเอามันออกเอามันย้ายไปเป็นว่าเล่น ย้ายกันเป็นระลอก..จับตามองกันให้ดีอย่าให้ผู้บริหารประเทศแหกตาหลอกพวกเราได้...มีคนเค้าว่ากันว่ารัฐบาลนี้ใช้เงินเป็นอย่างเดียวแต่หาเงินไม่เป็นหาเงินได้จากการกู้อย่างเดียวจริงหรือไม่ติดตามกันต่อไปและกันค่ะ...นี่ล่ะความฝันที่อยากเล่าแล้วข้อมูลหายหมดเขียนใหม่อารมณ์ก็ไม่เหมือนเดิม ไม่มันส์เล๊ยยยยจริงๆ นะตัวเอ๊งงงงง....อ่อ..สงสารเด็กน้อยตาดำรุ่นต่อไปที่เกิดมาพร้อมกับกำหนี้ออกจากท้องพ่อท้องแม่มาเลยล่ะ ถ้าหากเด็กน้อยเลือกได้คงรีบมุดกลับไปอยู่ในท้องแม่ต่อดีกว่าไม่อยากเกิดมาแล้วต้องรับหนี้ที่ไม่ได้ก่อในยุคนี้...ก็ใครล่ะก่อไว้ทำให้ประเทศชาติฉิ...หายวายวอดให้พวกมันนั่นแหละออก...ไปเอาคืนจากพวกมันเลยค่ะอย่าให้เด็กตาดำต้องเกิดมารับกรรมเพราะการกระทำของคนเลวๆ พวกนี้นะคะ...หรือไม่อย่างน้อยอยากเห็นรัฐบาลชุดนี้จัดการกับพวกที่ยึดสนามบินเสียที นั่งรอ นอนรอ นานเกินไปแล้วค่ะยังไม่เห็นทำอะไรนอกจากโครงการงาบ เอ๊ย โครงการกู้โน่นกู้นี่ แม้แต่ไปปัดฝุ่น สปก 4-01 ก็ยังงาบ เอ๊ย (เขียนผิดบ่อยจริงๆ)ก็ยังทำบางคนยังไม่ทราบว่า สปก 4-01 คืออะไร ก็คือ โครงการนำพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม มาแจกจ่ายให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น ที่รัฐบาลไหนไม่จำเป็นต้องบอก มันคุ้นๆ (อีกและ)สิ่งที่เกิด คือ ทรัพย์แผ่นดินของชาติ ถูกแจกจ่ายให้กับนายทุน นักธุกิจ จำนวนมาก ที่ดินป่าอุดมสมบูรณ์ ที่ดินในเขตธรรมชาติที่สวยงามถูกตัดแบ่งเพื่อแจกจ่ายให้กับบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าใกล้ชิดนักการเมือง ที่ดินที่ควรจะกลายเป็นที่ทำกินต้องกลายเป็นรีสอร์ท เป็นฟาร์มขนาดใหญ่ของนายทุน ถือเป็นความอัปยศของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่สมควรจะถูกยุบพรรคไปนานแล้วแต่ก็ยังอยู่ได้ด้วยเหตุผลนานาประการ แต่สำหรับตัวเองขอเรียกว่าหนังเหนียว หรือเหนียงยาน จึงทำให้อยู่รอดโดยไม่โดนยุบพรรคทั้งที่น่าจะโดนเป็นพรรคแรกด้วยซ้ำไป ใครๆ ก็รู้กันดี และโครงการนี้กำลังจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งในยุคนี้ เค้าว่ากันว่าหลักการของโครงการนี้เป็นเรื่องที่ดี แต่คนอุจจาระโก่งเอาไปทำไม่ดีเลยเกิดเป็นคดีความยืดเยื้อกันมาตลอด นี่ยังมีกระจิตกระใจเอามาปัดฝุ่นทำอีกเหรอคะเนี่ย...เป็น งง มากๆ..หลายๆ อย่างเหมือนย้อนกลับสู่อดีตที่ยังอยู่ในสามัญสำนึกที่เคยเกลียดพรรคการเมืองนี้ยังงัยก็ยังคงเกลียดไม่เคยจืดจาง ถามว่าทำไมก็เพราะมันทำแบบนี้ไงคะอย่างที่เล่าว่าฝันแบบนี้ค่ะ...เกลียด รู้ไว้ด้วย....อ่อ..มีคนตั้งคำถามเกี่ยวกับ สปก 4-01ไว้แบบนี้ค่ะพอดีเปิดเวปใช้ชื่อว่า endless man ในบล๊อกแก๊งค์ เค้าถามว่า ...1. ที่ดินที่จะนำมาแจกนั้นมาจากไหน จากครั้งอดีต รัฐประกาศใช้พื้นที่ป่าบางส่วนที่อ้างว่าเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ก็คือป่าที่ต้นไม้ถูกทำลายไปแล้วจำนวนมาก จนเสียสมดุลธรรมชาติไปแล้ว ในเรื่องนี้มีปัญหาอยู่มาก เนื่องจาก
1.1 การจะจัดสรรว่าพื้นที่ใดเสื่อมโทรมนั้น มีความโปร่งใสหรือไม่ ไม่ใช่นายทุนอยากได้ที่สวยๆ ไว้ทำรีสอร์ท ก็ไประบุว่าที่ตรงนั้นเสื่อมโทรม
1.2 ประเทศไทยสูญเสียพื้นที่ป่าไปแล้วจำนวนมากมายมหาศาล และพื้นที่ป่าที่มีอยู่บวกกับส่วนที่มองว่าเสื่อมโทรม นั้นจริงๆแล้ว มีไม่เพียงพอของที่ควรจะมีด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี และหลักประกันว่าเมืองไทยจะมีแหล่งน้ำจากป่าต่อไป เราต้องเพิ่มพื้นที่ป่า มิใช่เอาป่ามาหั่นแจกจ่าย ป่าเสื่อมโทรม ก็ควรเข้าไปปลูกไปทำนุบำรุงให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
1.3 พื้นดินที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำการเกษตรนั้น คือบริเวณที่ราบลุ่ม ซึ่งถูกจำจองทำกินหมดแล้ว รวมถึงตกเป็นของนายทุนไปหมดสิ้น ผืนดินในป่านั้น แร้นแค้นและขาดความอุดม หน้าดินบาง อย่างที่ทุกท่านทราบๆกัน ถามว่า พื้นที่เหล่านี้เหมาะสมสำหรับการทำการเกษตรหรือ จริงๆนั้น ทางที่เหมาะสมซึ่งพูดกันมานาน ก็คือการเอาที่นายทุนอำมาตยากว้านซื้อมาจากเกษตรกร คืนมา แล้วแบ่งสันปันส่วนใหม่ รวมถึงที่ดินรกร้างมากมายที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็ให้มีการเข้าไปทำกิน ในส่วนนี้เป็นที่ทราบกันดีว่านอกจากการซื้อคืนโดยรัฐแล้ว ยังสมควรใช้มาตรการทางภาษี ไม่ว่าจะเป็นภาษีมรดก ภาษีที่ดิน ซึ่งต้องเรียกเก็บจากที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในอัตราสูง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขายที่ดินไปใช้ประโยชน์ แต่รัฐบาลอำมาตยาที่ผ่านมาก็ไม่เคยคิดจะทำ เนื่องจากกระทบต่อชนชั้นผลประโยชน์ของกลุ่มตน
2. การบริหารจัดการจะทำเช่นไร
2.1 จะทำอย่างไรให้เกิดความโปร่งใส อดีตที่ผ่านมา ที่รัฐบาล ปชป แจกที่ดินให้กับผู้ใกล้ชิดที่มิใช่เกษตรกรผู้ยากไร้ ก็เห็นชัดว่าความโปร่งใสนั้นไม่มีอยู่จริง ยิ่งมายุคนี้ ซึ่งเห็นแล้วว่าอำนาจอำมาตยาสามารถควบคุมได้ทุกองค์กรภาครัฐ และสื่อมวลชน แล้วจะมองหาความโปร่งใสได้อีกหรือ
2.2 ใครคือกลุ่มเป้าหมาย หากมองในมุมที่เศรษกิจของชาติที่กำลังพินาจ ประชาชนต้องตกงานจำนวนมากมาย กลุ่มแรกที่สมควรได้รับการดูแลก็คือ คนงานที่ตกงานนั่นเอง คำถามคืแรัฐมองที่จุดนี้หรือไม่
2.3 รัฐมีโครงการต่อเนื่องหลังจากแจกแล้วหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าที่ดินส่วนใหญ่นั้น เป็นที่ดินเลว ซึ่งต้องอาศัยการบริหารจัดการอย่างมาก เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งอาจเริ่มต้นจากโครงการส่งเสริมการทำปศุสัตว์ การให้ความรู้การทำการเกษตร และควรสร้างแหล่งน้ำให้เกษตรกรด้วย
2.4 แล้วปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมละ การเพิ่มพื้นที่ป่า รัฐบาลได้ตระหนักในจุดนี้หรือไม่ ซึ่งการแก้ไขปัญหา ควรส่งเสริมการปลูกป่าเศรษฐกิจ เพื่อสร้างพื้นที่ป่าใหม่ และเป็นที่ทราบกันว่าป่าเศรษฐกิจนั้นสามารถลดภาวะโลกร้อนได้ และยังช่วยแก้ไขปัญหาดินเลวไม่เหมาะแก่การเพาะปลูกได้อีกด้วย ซึ่งหากรัฐสามารถทำตรงนี้ได้ ก็จะตอบโจทน์ได้มากมายทีเดียว
2.5 พื้นที่ สปก นั้นมักอยู่ชายป่า รัฐจะป้องกันอย่างไร ไม่ให้ประชาชนที่เข้าไปอยู่รุกป่าเข้าไปอีก เพราะเท่าที่เป็นอยู่ รัฐก็แก้ไขปัญหาการรุกป่าไม่ได้อยู่แล้ว
อยากถามว่าที่เค้าถามมาทั้งหมดตอบได้ป่ะคะตัวเอ๊ง (ไม่ใช่ตัวกรู)....555555....
เริ่มเครียดแล้ว....เปลี่ยนเรื่องด่วน...55555....งั้นเอาเรื่องของยายและกันค่ะคลายเครียดได้เหมือนกัน อย่างน้อยก็ทำให้อมยิ้มได้ล่ะค่ะ
หลาน : ยาย..ยาย
ยาย : หา?
หลาน : ยายว่างไหมเนี่ย?
ยาย : ว่าง
หลาน : คุยด้วยคนนะยาย
ยาย : เอาสิหลานเอ้ย..นั่งก่อนๆ
หลาน : เอ่อ....ยายก็ลุกขึ้นสิ
ยาย : ทำไมยายต้องลุกขึ้นด้วยล่ะ
หลาน : ผมจะได้นั่งก่อน
หลาน : ยาย..
ยาย : หา...
หลาน : ยายปีนี้ดูแก่มากเลยนะยาย..อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ..?
ยาย : เมื่อ20 ปีที่แล้วยายอายุ 50 ไม่รู้ว่าตอนนี้มันยังจะ50 อยู่หรือป่าว ไม่ได้นับมานานแล้ว
หลาน : โห...ยาย ป่านนี้มันไม่เหลือ 9 ขวบแล้วหรอ..แล้วลูกเต้าไม่มีหรอยายถึงมานั่งคนเดียวเนี่ย
ยาย : มี..
หลาน : อ้าว..แล้วทำไมเค้าไม่มาด้วยอ่ะ
ยาย : มีลูกชายสองคน คนหนึ่งอยู่ระยอง คนหนึ่งอยู่เชียงใหม่โน่น ลูกชายคนหนึ่งมันจะให้ยายไปอยู่เชียงใหม่...อีกคนหนึ่งจะให้ยายไปอยู่ระยอง ..ตัดสินใจไม่ถูกไม่รู้จะไปอยู่กะใครเนี่ย?
หลาน : โอ้โฮ..ยายนี่โชคดีจังเลย ลูกแย่งกันเลี้ยง
ยาย : โชคดีกะผีอะไรล่ะ...ก็นายคนที่อยู่ระยอง..มันจะให้ไปอยู่เชียงใหม่ นายคนที่อยู่เชียงใหม่..มันจะให้ไปอยู่ระยอง
หลาน : เออ..ยาย..อย่าไปคิดมากเลย อายุปูนนี้ร่างกายยังแข็งแรงอยู่ก็ถือว่าโชคดีแล้ว
ยาย : โอ้ย..แข็งแรงที่ไหนกัน ตอนนี้กำลังแย่เลยว่ะ
หลาน : แย่ที่ไหนยาย..ก็เห็นแข็งแรงดี
ยาย : เดี๋ยวนี้ยายมีอาการแปลกๆ เช่น นั่งๆอยู่เนี่ย..ถ้าลุกขึ้นปุ๊บ..มันจะยืนทุกทีเลยว่ะเป็นอะไรไม่รู้
หลาน : ลุกแล้วยืนน่ะมันธรรมดานะยาย..ยายเคยเห็นคนล้มทั้งยืนมั้ยยาย..?
ยาย : ไม่เคยว่ะ
หลาน : อยากเห็นมั้ย..?
ยาย : อย่าเลย..ยายแก่แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยอยากรู้อยากเห็นอะไร
หลาน : อ้าว..เป็นอะไรไปหรอยาย..?
ยาย : สงสัยจะแก่ตัวมาก นั่งนานๆแล้วมันจะมีปัญหา.
หลาน : มันเป็นยังงัยหรอยาย..?
ยาย : อีขาซ้ายนี่มัน...ชา
หลาน : แล้วขาขวาล่ะยาย..?
ยาย : กาแฟว่ะ..
หลาน : ผมว่ายายต้องรีบไปหาหมอแล้วล่ะ..
ยาย : ทำไมล่ะ..?
หลาน : ถ้าปล่อยไว้นานๆมันจะเป็นโอวัลตินนะยาย
ยาย : อืม..แล้วพอยืนนานๆนะ..ขาซ้ายมันจะปวด
หลาน : โอ้ย..เป็นเรื่องธรรมดายาย อายุมากแล้วนี่ มันก็ปวดสิ
ยาย : ไม่จริงหรอก..ขาข้างขวานี่ก็อายุเท่ากันไม่เห็นมันปวดเลย
ช้านไม่แปลกใจเล๊ยยยยว่าทามมายยายถึงโดนทิ้ง
สงสารกันหน่อยในวัน ที่เธอ เลิกไป ไม่เคย จะมี วี่แวว
ใจก็เจ็บ อยู่แล้ว ที่เธอไป ไปกับใคร คนนั้น
ทำไม ต้องพา เขามา มาให้เจอ กับฉัน
เธอยิ่งทำ อย่างนั้น เหมือนยิ่งเหยียบ เหยียบย่ำ และซ้ำเติม
สงสาร กันหน่อย ได้ไหม ใจมันรับ อีกไม่ไหว
เมื่อจะมีรักใหม่ทำไมต้องพามาเจอ
สงสาร กันหน่อย ได้ไหม สงสาร ฉันบ้าง สิเธอ
โปรดอย่ามา ให้เจอ ยามเธอ คู่เคียง คนใหม่
เธอเดิน จับมือ เขาไป เหมือนเธอ ตั้งใจ ตอกย้ำ เดิน บนความ เจ็บช้ำ ย่ำใจ เก่าเก่า ไม่ให้ เหลือไว้
ฉัน ก็คน เหมือนกัน ต้องการ ให้เจ็บ แค่ไหน
ยังไม่พอใช่ไหม ฉันยัง ไม่เจ็บ เท่าเธอ ต้องการ
สงสาร กันหน่อย ได้ไหม
ใจมัน รับอีก ไม่ไหว เมื่อจะมี รักใหม่
ทำไม ต้องพา มาเจอ สงสาร กันหน่อย ได้ไหม สงสาร ฉันบ้าง สิเธอ โปรดอย่ามา ให้เจอ ยามเธอ คู่เคียง คนใหม่
สงสาร กันหน่อย ได้ไหม
ใจมัน รับอีก ไม่ไหว เมื่อจะมี รักใหม่
ทำไม ต้องพา มาเจอ
สงสาร กันหน่อย ได้ไหม
สงสาร ฉันบ้าง สิเธอ
โปรดอย่ามา ให้เจอ
ยามเธอ คู่เคียง คนใหม่