วันจันทร์, มกราคม 05, 2552

กับคำว่า "สัญญา"

วันนี้ตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน...ลืมไปว่าวันนี้จำเป็นต้องเกงานอีก 1 วันทั้งที่หยุดยาวมาหลายวันแล้วมีธุระจำเป็นต้องทำบางอย่าง...เอาน่ะ..จำเป็นเก ก็ต้อง เกกันล่ะ...ก็ด้วยความเคยชินที่เป็นคนตื่นแต่เช้ากว่าเมื่อก่อนทุกวัน เมื่อก่อนจะตื่นโดยประมาณไม่เกินหกโมงเช้า แต่สำหรับบ้านใหม่จำเป็นต้องตื่นตีสี่ครึ่งถึงตีห้าถ้าเกินจากนี้เป็นอันว่าสายใกล้เวลารถติด แต่ถ้าออกสายไปถึงที่ทำงานไม่สายก็จริงอยู่แต่หงุดหงิดกับรถติดมากมายบนถนนโดยเฉพาะช่วงคอขวดที่มีถนนหลายสายมาพบกัน...หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยล่ะเพราะเหตุนี้จึงต้องตื่นเช้าเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนนั่นเอง

นั่งคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อย...นึกถึงสิ่งต่างๆ รอบตัว นึกถึงคนโน้นคนนี้ นึกถึงตัวเองมีหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายในชีวิต กับอดีตที่ผ่านมา กับความสุข ความทุกข์ ความผิดหวัง ผิดพลาดที่เกิด สิ่งที่น่าภูมิใจของตัวเองคือเป็นคนรักษาสัญญายิ่งชีพ ถ้าได้เอ่ยปากคำว่า "สัญญา" กับใครแล้วต้องทำให้ได้แม้ตายก็จะทำ คำสัญญาแม้จะเป็นการผูกมัดตัวเราเอง ผูกมัดคนอื่น สำหรับตัวเองก่อนจะให้สัญญากับใครเป็นสิ่งที่ยากเย็นเพราะกลัวว่าจะทำไม่ได้ ถ้าหากคิดลังเลว่าน่าจะทำไม่ได้ก็จะไม่ให้สัญญา แต่เมื่อเกิดความมั่นใจว่าฉันต้องทำได้แน่นอนก็จะพูดคำว่า "สัญญา" โดยไม่ลังเลทันที คำสัญญาของตัวเองจึงเป็นการผูกมัด และนั่นหมายถึงความผูกพันในคำสัญญาและตัวบุคคลที่ให้สัญญา มีบางเรื่องราวที่คนมักเข้าใจผิดกับการให้สัญญามันหมายถึง "ทิฐิ" ที่มีต่อกันโดยเฉพาะการเลิกราถ้าหากครั้งใดที่ตัวเองสัญญากับตัวเองว่าจะเลิกคบกับใครสักคนหนึ่ง เมื่อเป็นคนรักษาสัญญาก็จะตะลุยทำตามสัญญานั้นถึงแม้บางทีตัวเองจะเจ็บปวดเพียงใดก็ตามไม่มีวันล้มเลิกแน่นอน สิ่งนี้มั๊งที่คนเรียกว่า "ทิฐิ" ต่อให้วันเดือนปี ผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่มีวันจะเปลี่ยนแปลงและลบคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับตัวเองได้เลย



หลายคนคงแปลกใจว่าทำไมคนเรามักชอบให้อีกคนสัญญา ทั้งที่น้อยครั้งมากที่คำสัญญาจะศักดิ์สิทธิ์ เพราะมันเป็นแค่คำพูด ณ เวลาหนึ่งของคนๆ หนึ่งเท่านั้น ความเป็นจริงคำสัญญาให้ได้แค่การผูกมัดเท่านั้น คนที่ให้สัญญาจะขาดอิสระ ...เพราะติด "คำสัญญา" ที่เมื่อเอ่ยคำว่า "สัญญา" ออกมาแล้วคนที่ยึดมั่นในคำสัญญา (มีน้อยมาก) จะดิ้นไม่หลุด ถ้าหากไม่รักษาสัญญาก็จะกลายเป็นคนที่ผิดคำพูด ซึ่งเค้าว่ากันว่าคนที่ชอบสัญญา เป็นเพราะขาดความมั่นใจ จนต้องใช้คำพูดมาช่วยยึดติดความคิดที่จะทำไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นสินะอาจจะใช่ก็ได้ในอดีตที่ผ่านมาสำหรับตัวเองแล้วเป็นคนที่รักษาสัญญามากๆ หากใครบางคน หรือหลายๆ คนที่รู้จักจะรู้ดีพอว่าคนๆ นี้รักษาสัญญาอย่างไร คำว่าสัญญาไม่ออกจากปากคนๆ นี้ง่ายๆ ค่ะถ้าไม่แน่ใจ

เอ...เริ่ม งง ว่ามาเข้าเรื่องนี้ได้ยังไงเริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้วว่ามาเรื่องนี้ได้ยังไงกันหนอเรา.....555555....แต่จะสรุปง่ายๆ แล้วกันว่าความจริงแล้วถ้าหากใครมีความมั่นคงในหัวใจแล้ว คำสัญญาใดๆ ก็จะไม่จำเป็นค่ะฉะนั้นถ้าใครมีคำถามเกี่ยวกับคำสัญญาที่ให้กันไว้ก็มีคำตอบแบบนี้ค่ะ

คำถาม..บางคำถาม .... เราสามารถหาคำตอบได้
คำถาม..บางคำถาม .... เราหาคำตอบไม่ได้
คำถาม..บางคำถาม .... เรามองและคิดเองว่าเข้าใจ
คำถาม..บางคำถาม .... เราไม่กล้าคิดว่าคือ คำตอบ





ชีวิตที่มีความสุขที่แท้จริง คือ ชีวิตที่เรียบง่ายที่สุด ความเรียบง่าย..แท้จริงแล้ว อยู่ในใจของเรานี่เอง ไม่ต้องไปหาจากที่ไหน




ผู้ใหญ่ยิ่งต้องการมาก เด็กเด็กยิ่งได้รับน้อยลง ผู้ใหญ่ไม่สงบสุข โลกก็ไม่สงบสุข เด็กเด็กก็ไม่สงบสุข




เวลาที่คนสิ้นหวังที่สุด คนนั้นมักค้นพบสิ่งที่สวยงาม อย่างน่าประหลาดใจที่สุดเสมอ




เรือที่จอดอยู่ในท่า จะปลอดภัยที่สุด แต่เรือไม่ได้ถูกสร้างมา เพื่อให้จอดอยู่ในท่า




เธอจะพบความสวยงาม ของมหาสมุทรได้อย่างไร หากเธอไม่กล้าพอ ที่จะออกไปไกลจากฝั่ง




สำหรับคนที่มีความอดทน แม้ชั่วโมงที่ยากลำบากที่สุด ก็ยาวนานเพียง 60 นาที




วันที่ยาวนานที่สุด คือวันที่หัวใจของเธอ ไม่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ




 ฉันเป็นคนมั่งมี ไม่ใช่เพราะฉันมีมากมาย แต่เป็นเพราะว่าฉันมีมากพอ




 เทียนที่นำไปจุดเทียนเล่มอื่น จะไม่สูญเสียความสว่างของตัวเอง แต่จะทำให้ห้องสว่างไสวขึ้น




บางครั้ง เราอาจไม่เข้าใจ การกระทำของตัวเอง ฉะนั้น จึงไม่ควรตัดสิน การกระทำของคนอื่น




ถ้ามองแต่ความผิดของคนอื่น เธอจะมีแต่ความเกลียด ถ้ามองแต่ความดีของคนอื่น เธอจะมีแต่ความรัก




เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น อย่ามัวคิดว่าใครเป็นคนทำ แต่จงคิดว่าจะแก้ไขได้อย่างไร




เมื่อพบความผิดพลาด ก็นับว่า ความผิดพลาดนั้น ได้รับการแก้ไขไปแล้วส่วนหนึ่ง




เมื่อยอมรับประโยชน์ จากแสงสว่าง และ ความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์ ก็ต้องยอมรับผลของพายุ ฝนฟ้าคะนองด้วย



ความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับการกระทำ ไม่ใช่การอธิษฐาน


คำถาม - FFK เฟย์ ฟาง แก้ว

อยากให้วันนี้ เป็นแบบวันนั้น
ที่เราหลบฝนอยู่ด้วยกัน มีร่มคันหนึ่ง กับใจที่เริ่มสั่น
ไม่น่าหรือว่าหวั่นไหวเพราะไกล้เธอ

ตั้งแต่วันนั้น มาจนวันนี้
ไม่ว่ากี่ทีที่พบเจอ ที่ดูไม่ค่อยคุย
แค่ยิ่มให้เธอ ก็กลัวว่าเผลอไปบอกความในใจ

ได้แต่ตั้งคำถามแตไม่กล้าถามเธอสักครั้ง
ได้แต่ตั้งความหวังข้างในหัวใจ
ที่จริงแค่อยากรู้ว่าเธอนะคิดเหมือนฉันไหม
อยากให้เธอมองตาและตอบคำถามหัวใจ
ไม่รู้เมื่อไหร่ เธอจะได้ตอบมันสักที

ไม่มีใครรู้ มีแค่เธอรู้ ว่าคำตอบนั้นเป็นเช่นไร
ถ้ามันไม่ตรงกัน ฉันก็เข้าใจ
แต่ว่ายังไงก็ยังจะรอฟัง

ได้แต่ตั้งคำถามแตไม่กล้าถามเธอสักครั้ง
ได้แต่ตั้งความหวังข้างในหัวใจ
ที่จริงแค่อยากรู้ว่าเธอนะคิดเหมือนฉันไหม
อยากให้เธอมองตาและตอบคำถามหัวใจ
ไม่รู้เมื่อไหร่ เธอจะได้ตอบมันสักที

ได้แต่ตั้งคำถามแตไม่กล้าถามเธอสักครั้ง
ได้แต่ตั้งความหวังข้างในหัวใจ
ที่จริงแค่อยากรู้ว่าเธอนะคิดเหมือนฉันไหม
อยากให้เธอมองตาและตอบคำถามหัวใจ
ไม่รู้เมื่อไหร่ เธอจะได้ตอบมันสักที

ก็มีคำถามในใจที่ต้องรัก

ที่จริงแค่อยากรู้ว่าเธอนะคิดเหมือนฉันไหม
อยากให้เธอมองตาและตอบคำถามหัวใจ
ไม่รู้เมื่อไหร่ เธอจะได้ตอบมันสักที






















































2 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีปีใหม่คร้าบพี่ มีความสุขตลอดปี2009มากๆนะครับ
    เรื่องสัญญา อันนี้ผมไม่สัญญา เพราะคุณนกยูง จับผมไปสาบานเลย555+
    ยิ่งกว่าสัญญาอีกนะครับนั่น

    สบายดีนะครับพี่^^

    ตอบลบ
  2. ชอบรูปจังน่ารักดี อิอิ
    ตอนนี้ง่วงมากมาย อ่านหนังสือตาปรือ = = เยย งิ งิ
    มะไหร่จะได้เวลากลับบ้านน้อ...

    รักนะคับ จุ๊บๆๆๆ ^^

    ตอบลบ

ออกความเห็นสักนิดจะมีข้อคิดให้อ่านทุกว้นค่ะ

Personlove

วันที่เขียน