หนังสือเรื่อง "ความสุขของกะทิ" ผู้แต่ง คือ คุณงามพรรณ เวชชาชีวะ เป็นหนังสือรางวัลซีไรท์ ปี 2549
เป็นวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซี่ยน (ซีไรท์) ประเภทนวนิยาย ของสำนักพิมพ์แพรวตีพิมพ์ทั้งหมด 41 ครั้ง
“ความสุขของกะทิ” เป็นนวนิยายขนาดสั้น เล่าถึงเด็กหญิงวัย 9 ขวบชื่อว่า กะทิ ที่ต้องสูญเสียแม่ก่อนวัยอันควร กะทิได้ผ่านขั้นตอนความสุขและทุกข์ ความผูกพันและการพลัดพราก ความสมหวังและความสูญเสีย ซึ่งทำให้กะทิได้เรียนรู้ว่าความทุกข์จากการสูญเสียไม่อาจพรากความสุขจากความรักและความผูกพันของแม่กับเธอได้ เด็กน้อยเติบโตขึ้นจากประสบการณ์นี้ด้วยความเชื่อมั่นและมีกำลังใจจากคนใกล้ชิด ผู้ที่เธอรักและรักเธอ
ที่คณะกรรมการฯ ได้ตัดสินให้ได้รางวัลเพราะว่า... “ความสุขของกะทิ เป็นงานศิลปะที่สร้างสรรค์องค์ประกอบอย่างหมดจดงดงาม สื่อแนวคิดซึ่งเป็นที่เข้าใจได้สำหรับคนอ่านหลากหลายไม่ว่าอยู่ในวัยและวัฒนธรรมใด เสน่ห์ของนวนิยายเรื่องนี้อยู่ที่กลวิธีการเล่าเรื่องที่ค่อย ๆ เผยปมปัญหาทีละน้อย ๆ ผ่านมุมมองของตัวละครเอก ด้วยภาษารื่นรมย์แฝงอารมณ์ขัน สอดแทรกความเข้าใจชีวิตที่ตัวละครได้เรียนรู้ไปตามประสบการณ์ ความสะเทือนอารมณ์จะค่อยๆ พัฒนาและดิ่งลึกในห้วงนึกคิดของผู้อ่าน นำพาให้ผู้อ่านอิ่มเอมกับรสแห่งความโศกอันเกษมที่ได้สัมผัสประสบการณ์ของชีวิตเล็ก ๆ ของเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง”
ปัจจุบันหนังสือเรื่อง ”ความสุขของกะทิ” อนุญาตลิขสิทธิ์เพื่อแปลและจำหน่ายใน 5 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น และกำลังจะตีพิมพ์ในเกาหลีและสเปนในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ภาคต่อของ”ความสุขของกะทิ” คือ “ตามหาพระจันทร์” ได้อนุญาตลิขสิทธิ์ไปตีพิมพ์ในฝรั่งเศสด้วย
หนังเรื่องนี้จึงมาจากหนังสือวรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้ เป็นหน้งสือก็น่าอ่านเป้นหนังก็น่าดู เมื่อได้นำมาสร้างเป็นหนัง จึงเป็นเรื่องที่ทำให้คนอ่านได้แตะต้องความรู้สึกของเด็กดีๆ ที่สนใจหนังเรื่องนี้ ก็เนื่องจากวันก่อนไปดูหนังกับผู้หมวดเห็นตัวอย่างหนังแล้วน่าดูมาก เห็นภาพแผ่นหนังบางช่วง ทำให้เราคิดถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทยที่อยู่กันแบบสบาย ๆ มีสายลมเย็นพัดผ่านที่ท่าน้ำ ในความรู้สึกตัวเองแล้วใฝ่ฝันมากอยากมีบ้านริมแม่น้ำที่มีศาลานั่งรับลมริมแม่น้ำ เอาไว้นั่ง(นอนเล่น) ดูพระจันทร์และดวงดาวยามค่ำคืน...จะมีโอกาสมั๊ยนะ...อยากมีจัง..ถ้าเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยขอไปนั่งบ้านใครก็ได้ค่ะที่มีทิวทัศน์แบบหนังเรื่องนี้....จะขอบคุณมากเลยค่ะ....555555....
เพลงฉันดีใจที่มีเธอ
ฉันดีใจทีมีเธอ
ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี
ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ
แม้ว่าต้องพบ อะไร
ฉันได้รู้และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
ฉันดีใจทีมีเธอ
ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี
ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ
แม้ว่าต้องพบ อะไร
ฉันได้รู้และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้....
ฉันดีใจทีมีเธอ
ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี
ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ
แม้ว่าต้องพบ อะไร
ฉันได้รู้และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี
ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ
แม้ว่าต้องพบ อะไร
ฉันได้รู้และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
แม้ว่าต้องพบ อะไร...
ตอนดูไตเติ้ล ผมนึกว่าเขาเอาเค้าโครงเรื่องมาจากแบบเรียนภาษาไทยสมัยก่อนมาทำซะอีก
ตอบลบมี มานะ มานี ชูใจ ล่วย เหอๆๆ
เด๋วถ้ามีจังหวะเวลาดีๆ เราไปดูด้วยกันนะคับ จุ๊บๆๆๆ
ผมเป้นแฟนคลับ ของ หนังสือ ความสุขของกระทิเลยละ
ตอบลบแล้วก้คาดหวังว่า หนัง.... คงออกมาอย่างที่ผมวาดไว้
เห็นด้วย ได้ฟีลประมาณมานะมานีชูใจมากๆ
ตอบลบดูแล้วคิดไปถึงวันเก่าๆ
อยากดูครับผม
เคยยืมหนังสือมาจากห้องสมุด แต่แล้วก็ต้องเอาไปคืน
ตอบลบเพราะไม่มีเวลาอ่าน ...เห็นตัวอย่างในโรงหนังแล้วก็อยากดูน่ะ
" อยากมีบ้านริมแม่น้ำที่มีศาลานั่งรับลมริมแม่น้ำ เอาไว้นั่ง(นอนเล่น) ดูพระจันทร์และดวงดาวยามค่ำคืน "
...ง๊านก็ต้องหาแฟนที่มีบ้านแบบนี้ดิ คริ คริ
(^________________________^))
น้องปิมก็เพิ่งซื้อมา แต่ยังไม่มีเวลาอ่านเลย
ตอบลบแถมยังรบเร้าให้พี่พาไปดูหนังอีกตะหาก ...
น่าไปดูจริงๆนะ...
แต่มิวสิคเพลง "ฉันดีใจที่มีเธอ" เวอร์ชั่นนัทต้อลนี่
ไม่เกี่ยวกะเรื่องกะทินี่นา...
คิก คิก
ขอบคุณนะค่ะ
ตอบลบ