พักนี้ยุ่งมากถึงมากที่สุด บางวันกว่าจะได้หลับก็ปาเข้าไปเกือบเช้าแล้วนอนสัก ช.ม ก็ต้องดีดตัวผึงเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน...อีกอย่างหยุดไม่ได้อีกแล้วเพราะอยู่บนเส้นความเป็นความตายที่จะได้ขึ้นขั้นเงินเดือนเพราะเผลอลาเกือบครบตามที่ราชการกำหนดในเกณฑ์ครึ่งปีแรก คือ ต้องหยุดไม่เกิน 23 วัน.....555555.....ในระยะเวลา 6 เดือนมีความสามารถลาป่วยได้ 23 วันพอดีเปี๊ยะไม่ขาดไม่เกิน ได้รับคำเตือนจากหัวหน้าก่อนที่พี่เค้าจะออกไปต่างจังหวัดว่า....อย่าหยุดอีกล่ะจนถึงสิ้นเดือนนี้...ความหมายจันทร์ อังคาร ห้ามหยุดนั่นเอง...เกือบไปแล้วสิเรา...ถือว่าดวงยังดีที่ลาพอดีเป๊ะอย่างน้อยยังได้ครึ่งปีแรกเหมือนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คือ ครึ่งขั้น เพราะเทอมนี้หัวหน้าขอ 1 ขั้นไปซะแล้วพวกเราทุกคนอด...หยุดหรือไม่หยุดก็ครึ่งขั้นล่ะ...บางทีอ่านแล้วจะตกใจมันลาอะไรนักหนาตั้ง 23 วันทำการ (วันทำการ คือ วันเฉพาะวันทีไปทำงานไม่คิดวันเสาร์-อาทิตย์ที่หยุดเป็นปกติอยู่แล้ว) จะป่วยบ้าง เปื่อยบ้าง เบื่อบ้าง ทำงานที่บ้านบ้าง (แต่เสียเวลาส่วนตัวของตัวเอง แต่หยุดเพราะเหตุนี้บ่อย เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ทำงานไม่เอื้ออำนวยให้ทำงานได้ถ้าทำที่บ้านจะทำได้ดีกว่าและสะดวกกว่าเพราะข้อมูลบางอย่างอยู่ที่บ้าน) ถือว่ายังโชคดีที่หยุดไปหยุดมายังไม่เกินที่ราชการกำหนด อันนี้เป็นการหยุดโดยประมาท แบบลืมระเบียบทางราชการไปค่ะ เป็นคนแบบนี้ไม่ค่อยคิด ไม่ค่อยแคร์กับอะไร อยากทำอะไรทำ...อย่างได้งานมาชิ้นหนึ่งก็จะรับผิดชอบและวิธีการทำก็เป็นแบบฉบับของตัวเอง ที่หัวหน้าจะไม่มาสั่งการอะไรมากมีหน้าที่มอบงานมาให้ทำ แล้วเราก็รับผิดชอบทำงานให้เสร็จแล้วนำเสนอผู้ใหญ่ภายในกำหนดเวลาที่เค้ากำหนดมาให้ บางงานจะรีบด่วนเสียจนไม่มีเวลานอนต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้านประจำเพื่อให้ถูกใจ ตรงใจ และถูกต้องที่สุด...การทำงานแบบนี้เหนื่อยมากขอบอก
เริ่มเข้าเดือนเมษายน ใครต่อใครหลายๆ คนคงดีใจที่มีวันหยุดเยอะแยะและเป็นเดือนแห่งการท่องเที่ยวในฤดูร้อน แต่สำหรับตัวเองแล้วเดือนนี้เป็นเดือนที่งานชุกชุมมากๆ ต้องจัดประชุมส่วนกลางและ ต่างจังหวัดหลายที่มาก ต้องติดต่อโรงแรมทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัดเพื่อจัดประชุม ติดต่อเรื่องเครื่องอำนวยความสะดวก ที่พัก อาหารของทุกคนรวมทั้งผู้เข้าประชุม เป็นคนคิดรายการอาหาร ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด ไม่อยากทำงานนี้เพราะเบื่อการติดต่อ...อยากอยู่สงบๆ ไม่วุ่นวาย ต้องจัดการหนังสือทุกอย่างต้องจัดเตรียมสคลิปการไปประชุม ถ้าเตรียมพร้อมไม่ดีมีหวังโดนเล่นแน่นอน...นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตัวเองไม่มีความสุข หงุดหงิดไปหมดจนกว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไป
วันก่อนมีปัญหาเรื่องจองตั๋วเครื่องบิน เพราะไม่ได้ทำบัตรเครดิตราชการ ซึ่งระเบียบกำหนดให้หน่วยงานจ่ายค่าเครื่องบินด้วยบัตรเครติด ต้องทำบัตรเครดิตก่อน ไม่มีเวลาแม้แต่จะกรอกข้อความในใบขอแต่ถ้าไม่ทำเดี๋ยวก็ได้ตกเครื่องไม่มีเที่ยวบินแน่นอน...งานล้นมือ เลยขอร้องคนทึ่ไปร่วมทีมให้ช่วยทำบัตรแทนมีปัญหาไม่เข้าใจกันนิดหน่อย..แค่คำพูดที่สื่อความหมายเข้าใจกันผิดพลาด เกือบทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต..สุดท้ายก็เข้าใจกัน แค่คำพูด "ขอบคุณ" ความรู้สึกก็ดีขึ้นเป็นอันเข้าใจกัน ทุกอย่างก็ลุล่วงไปแต่จะด้วยดีหรือไม่ก็ต้องติดตามตอนต่อไป ตอนนี้รอให้ได้บัตรมาก่อนแล้วค่อยดำเนินการเรื่องอื่นๆ ต่อไปแม้แต่ค่าโรงแรมก็ต้องจ่ายเป็นบัตรเครดิตราชการ ซึ่งแตกต่างจากบัตรเครดิตส่วนตัว เพราะหน่วยงานจะรับผิดชอบและว่าไปตามหลักฐานจริงๆ ต่อไปคงต้องทำไว้ก่อนล่ะเพราะในการจัดประชุมครั้งต่อๆ ไปต้องใช้กันทุกคน...เบื่อค่ะ...
พักนี้ที่ไม่ค่อยได้เข้ามาเพราะงานในมือเร่งด่วนหมด จนหงุดหงิดที่สุดแล้วไม่ได้พักผ่อน ไม่ได้ช๊อปปิ้ง (อันนี้สำคัญเพราะทำเป็นปกตินิสัย ป่านนี้แม่ค้าพ่อค้าขาประจำคงคิดถึงมากๆ แล้วได้ข่าวว่าบ่น ว่าหายไปไหนไม่เห็นหน้าเป็นอาทิตย์ๆ แล้ว) แต่สิ่งที่ได้ คือ ประหยัดตังค์ในกระเป๋าไปเยอะเลยล่ะขอบอก....555555....เอางานมาอีกค๊าหัวหน้าขา...พอทำงานเสร็จคงได้กระเป่าหลุยส์ของแท้ล่ะแบบนี้......
วันนี้วันเสาร์ ความเคยชินที่ตื่นแต่เช้าทุกวันเมื่อคืนนอนดึกเหมือนปกติ เมื่อคืนเข้ามาเปิดดูโน่นดูนี่ ดูไปดูมาง่วงซะนี่...ว่าจะไปนอนเล่นสักพัก ไหงหลับไปจริงๆ ก็ไม่รู้ตื่นมาอีกที คอมก็เปิด ทีวีก็เปิด น้ำก็ยังไม่อาบพักนึ้เป็นแบบนี้บ่อย.....555555....ก็ต้องตื่นมาทำภาระกิจต่างๆ ให้เรียบร้อย อาบน้ำเสร็จบางคนบอกว่า อาบแล้วก็หายง่วงตาสว่าง แต่สำหรับคนๆ นี้ไม่ใช่ค่ะ ยิ่งอาบน้ำสบายตัวแล้วง่วงอยากหลับต่อล่ะ...อาบเสร็จปิดทุกอย่างเข้านอนต่อเลยไม่รอช้าเพราะตายอดตายอยากที่นอนมาหลายวันแล้ว ขอนอนให้เต็มอิ่มสักวันเหอะนะ....
บ่นแค่นั้นและกันค่ะ อ่านสาระความรักตามแนวถนัดดีกว่าแบบคลายเครียดๆๆ และกันค่ะ....555555....คือ ไปเจอบทความที่ตัวเองเคยเขียนไว้ลงที่ไหนสักแห่ง สองแห่ง อ่านแล้วรู้สึกดีกับข้อคิดของตัวเองที่เขียนก็เลยขอเอามาวางไว้ตรงนี้อีกครั้ง เผื่อมีประโยชน์สำหรับใครบางคนที่เข้ามาติดตามบล๊อกนี้ค่ะ
" Don't live with the one you can live with
but live with the one you can't live without "
" อย่าเลือกอยู่กับคนที่คิดว่าเราอยู่ด้วยได้
แต่จงเลือกอยู่กับคนที่หากขาดเขาแล้วเราจะอยู่ไม่ได้ "
ความคิดตอนนั้นที่เขียนเรื่องนี้ ตอนนั้นคิดว่าประโยคทั้งหมดนี้ถูก หรือผิดกันนะ...และแปลโจทย์ได้ว่า
....อย่าเลือกอยู่กับคนที่คิดว่าเราอยู่ด้วยได้....
ตอนนั้น (ที่เขียน) สงสัยว่าทำไมไม่เลือกคนที่ตัวเองคิดว่าอยู่กับเราได้ (แน่นอน)..ในเมื่อเราอยู่กับใครสักคนได้ เพราะคำว่าอยู่ได้ก็คือ ต้องอยู่ได้ ดีกว่าอยู่กันไปแล้ว อยู่ด้วยไม่ได้
.....แต่จงเลือกอยู่กับคนที่หากขาดเขาแล้วเราจะอยู่ไม่ได้.....
ความรู้สึกตัวเองตอนนั้น คิดว่าถ้าหากเราเลือกที่จะอยู่กับคนแบบนี้ นั่นหมายถึงว่าเรารักเค้ามากกว่าที่เค้ารักเราก็ได้ รักแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แค่ขอได้รัก แค่รักก็พอ รักแบบนี้คิดว่าเป็นรักที่ขาดเหตุผลของความถูกต้อง เป็นความรักแบบเอาแต่ใจตัวเองที่สุด ไม่คิดอนาคต แบบหลับหูหลับตารัก ความรู้สึกว่าเป็นรักที่ต้องทุ่มเทให้คนๆ หนึ่งสุดๆ และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรักเราเท่าที่เรารักเค้าหรือไม่ และอีกอย่างตัวเองไม่เชื่อว่า "ถ้าหากวันหนึ่งเราขาดคนๆ นี้ไปแล้วจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้" เพราะคนเราเกิดมาก็มาคนเดียวไม่ได้พกใครมาด้วย ดูแม้แต่คู่ฝาแฝดก็เหอะ ยังเกิดมาทีละคนคนละวินาที ไม่ได้ออกจากท้องแม่มาพร้อมกันซะหน่อย แล้วแบบนี้จะขาดใครสักคนไม่ได้ได้อย่างไรในเมื่อเกิดมาก็ตัวคนเดียวนี่นาเนอะ...ถ้าหากไม่มีใครสักคนคนนั้น ก็ไม่น่าทำให้ชีวิตเราแย่ลงไปกว่านี้หรอก...เราต้องอดทนและอยู่ให้ได้แม้ไม่มีใครสักคนต่างหากล่ะว่ามั๊ยคะ...
แล้วสิ่งไหน คือ สิ่งที่ถูกต้องในการเลือกของแต่ละคนล่ะคะ เพราะตัวเองก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดและเขียนมาทั้งหมดนั้นถูก อยากรู้ความคิดของคนอื่นบ้างเหมือนกันค่ะ และในบทความที่เขียนนั้น ได้พูดถึงเกมความรัก ที่ตอนนั้นคงไปเห็นของใครสักคนเขียนไว้และน่าจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พูดถึงก็เลยเก็บมาเขียนเป็นข้อคิดสำหรับคนที่มีความรัก
ในเกมความรักนั้น ได้กำหนดให้มีสะพานไม้เล็กๆ ที่แคบวางเท้าได้แค่เท้าเดียวขณะที่ก้าวไป แล้วให้ทุกคนเดินไปบนสะพานให้เดินจากหัวสะพานไปจนถึงปลายสะพาน ไม้เล็กๆ อันนี้ให้ได้ โดยทุกคนที่เดินบนสะพานไม้นี้ต้องหลับตา ถ้าใคร สามารถเดินไปถึง โดยไม่ตกลงมาก็จะได้คู่รักที่เป็นเนื้อคู่กันตลอดไป.....
ทุกคนจึงพยายามเดินบนสะพาน พยายามเดินแล้วหลายรอบ แต่ก็ตกลงมา ทุกครั้ง ไม่มีใครสามารถผ่านได้เลยสักคน จนบางคนถึงกับคิดว่า ฉันคงไม่มี เนื้อคู่แล้วสินะ....
ในที่สุดได้มีคน ๆ หนึ่งเดินไปๆ จนถึงปลายสะพานได้โดยไม่ตกลงมา ทำให้ ทุกคนต่างแปลกใจและสนใจ จึงเอ่ยปากถามว่า...เดินยังไงถึงไม่ตกลง มา....คำตอบที่ได้ คือ
" ......ก็แอบลืมตาเดินไง...... "
..... จากเรื่องนี้บอกอะไรเราบ้างล่ะ … สิ่งที่ได้คือ เพื่อความรักทุกคนยอมเดินไปบนสะพานนี้ ก็เพราะทุกคนนั้นอยากได้เนื้อคู่ที่แท้จริง เกมเค้าสั่งให้หลับตาเดิน ทุกคนต่่างก็ยอมหลับตา นั่น เพราะกลัวว่าถ้าหากไม่ปฏิบัติตามกติกาแล้วทุกคนจะไม่ได้ความรักที่แท้จริง ทุกคนจึงทำตามโดยยอมปฏิเสธสิ่งต่าง ๆ ที่จะทำให้เกมผิดพลาด ทุกคนจึงเดินหน้าไป และเดินผ่านโดยไม่คิดว่าบนสะพานไม้แคบก็แคบ ขนาด ลืมตาเดินยังน่าจะตกเลย แล้วนี่ยิ่งหลับตาเดินไปจะผ่านไปได้อย่างไรกัน ทุกคนลืมคิดความจริงในข้อนี้ แต่ด้วยทุกคนอยากมีความรักแท้จริง ที่เป็น ชัยชนะรออยู่ ทุกคนจึงยอมเดิน ..เค้าสั่งให้หลับตาเดินก็ต้องยอมเดินตาม เค้าสั่ง...
..แล้วคิดกันบ้างมั๊ยว่าจะเดินไปถึงได้อย่างไร…ในเมื่อตาเรามองไม่ เห็นทาง ที่ยาวและยังแคบอีก... ก็เปรียบเหมือนคนเราเวลามีความรัก ทุกคนอยากได้ความรักที่แท้จริง เมื่อ เจอใครสักคนที่ตัวเองรู้สึกว่ารัก ก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ความรักครั้งนี้คงอยู่ กับตัวเอง ยิ่งรักมาก ยิ่งปราศจากเหตุผลมาก เอาความรักเป็นเครื่องนำทาง ยอมให้ความรักสั่งใจ สั่งสมองตัวเอง จึงเปรียบเสมือนเกมนี้ที่ให้ความรัก คือ สะพานไม้ ที่กว่าจะเดินถึงสุดเส้นทางของความรักนั้น ทุกคนเห็นปัญหา ทุกคนเห็นสิ่งที่แท้จริงทุกอย่าง แต่ด้วยเกมของความรักที่สั่งให้เราปิดหูปิด ตาตัวเอง เพื่อให้ความรักคงอยู่ คนที่มีรักจึงต้องเล่นตามเกมและกติกาที่ ความรักำหนดไว้ ด้วยกลัวว่าความรักจะจากเราไป กลัวว่าจะไม่ได้ความรักที่ แท้จริง ทุกคนที่มีความรักจึงยอมหลับตาเดิน แต่จะมีใครสักกี่คนที่เดินตาม ทางของความรักกำหนดได้สมหวังทุกคน
เรื่องนี้จึงสอนให้ทุกคนรู้ว่า.... เวลามีความรักลองเปิดตามองให้ไกล... อย่าปล่อยให้ความรักทำให้ตาบอด...ถึงแม้ว่าลืมตาเดินแล้วยังตกลงมาอีก แต่ก็คงไม่ตกลงมา เจ็บเท่ากับหลับตาเดิน เพราะเราจะรู้ว่าตกท่าไหน ถึงจะทำให้เราเจ็บน้อยที่สุด เห็นมั๊ยว่า เกมเค้าบอกให้รู้ว่าเมื่อมีความรักต้องเปิดตาเดิน อย่าปิดตาเดิน อาจจะมีใครค้านว่า เมื่อมีกติกาทุกคนก็ต้องเดินไปตามกติกา แต่ในโลกของ ความเป็นจริง จะมีใครสักกี่คนล่ะคะที่เดินตามกติกาที่กำหนดทุกอย่าง และ ทุกคนก็รู้ว่า กติกานั้นยากที่จะเป็นจริงได้ คนที่รู้เท่าทันเท่านั้นที่จะชนะเกมนี้ได้ ไม่ได้บอกว่าการโกงเป็นสิ่งที่ดี การโกงทุกอย่างเป็นสิ่งไม่ดีไม่ควรทำ อย่างยิ่ง แต่การแอบดูเพราะกลัวตกและเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ถ้ามองใน มุมกลับแล้ว คนที่โกงนี้ ถือว่าเป็นคนที่รู้เท่าทันชีวิตต่างหาก คือ รู้ว่าถ้าแข่ง ไปตามกติกาแล้วไม่มีวันชนะ ในเมื่ออยากชนะก็ต้องอาศัยเทคนิคนิดหน่อย คิดในแง่ดี คือ การเอาตัวเองรอดโดยรู้เท่าทันและไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ถ้าถูกจับได้ตัวเองก็โดนไล่ออกไม่ให้เล่น ดังนั้นการรู้เท่าทันและเอาตัวเอง รอดจึงเป็นสิ่งที่คนที่มีความรักควรจะมีเพื่อปกป้องตัวเอง จะได้ไม่เจ็บปวดเมื่อความรักจากไป การแอบมองจึงเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการเอาตัวรอด ของมนุษย์เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการน่าจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะความรักมักทำให้คน ตาบอด รักแบบไม่ลืมหูลืมตา บางคนรักแบบไม่มีเหตุและผลขอให้ได้รักก็พอแล้ว จะเกิดอะไร จะเป็นอย่างไร ไม่สนใจขอให้ได้รักก็พอแล้ว แล้วแบบนี้จะเรียกว่า รักที่แท้จริงได้อย่างไร เพราะความรักที่แทัจริงนั้น ต้องใช้ ใจ กาย สมอง เหตุผล ในการจะตัดสินใจรักใครสักคน และเกมนี้ใช้ได้กับความ รักเท่านั้น อย่าคิดไปโกงใครในเกมอื่นนะคะ มันบาป .....555555....
ความรัก จึงเป็นเรื่องราวของความรู้สึกดี ๆ ระหว่างคนสองคน ความรักที่แท้จริง ก็ควรเป็นรักที่ให้ความสุขกับทั้งสองฝ่าย ถ้าหากความรักที่เกิดขึ้น เป็นความ พยายามของใครคนใดคนหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว แล้วความรักที่เกิดมานั้นจะ เป็นความรักที่มีความสุขได้อย่างไร และถ้าหากมีใครคนใดคนหนึ่ง ต้องเป็น ฝ่ายวิ่งตามอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้รักนั้นคงอยู่ รัก แบบนี้จะเรียกว่ารักได้มั๊ย
จะมีประโยชน์อะไรที่จะรัก
เพราะความรักไม่ใช่แค่ คนหนึ่งมีความสุขจนท่วมท้น
ในขณะที่อีกคนหนึ่งต้องทุกข์เพราะพยายามที่จะรัก
ความรักอย่าให้คนหนึ่งเสียใจ แต่อีกคนหนึ่งไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้อีกคนเสียใจอยู่
อย่าให้คนหนึ่งรู้สึกดี ในขณะที่อีกคนเฉย ๆ ไม่รู้สึกอะไร
จงอย่าละเลยความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเพราะมัวไปแคร์กับคนที่ตัวเองรัก
เพราะความรัก ไม่ใช่เป็นแค่ความสงสาร หรือต้องทนด้วยการฝืนใจกัน
ความรักต้องให้อิสระแก่กัน เธอก็คือเธอ ฉันก็คือฉัน
แต่เป็นเพราะคน 2 คน มารักกัน ต่างคนต่างมีหัวใจของตัวเอง
แต่เราก็มารักกันได้เพราะด้วยใจที่ ต้องการจะรักกัน
ทุก ทุกครั้งที่หัวใจอ่อนไหว
ความคิดก็ล่องลอยไกลกับความรู้สึกนี้
ทุก ทุกเช้าแดดยังคงส่องแสงทุกนาที
ทุกค่ำคืนเป็นอย่างนี้ในทุกคราว
เป็นความรู้สึกเดียวที่เกิดสม่ำเสมอ
และรู้ว่าเธอคงเห็นโดยไม่ต้องบอกกล่าว
แต่ละวันที่ฉันต้องผ่านทุกเรื่องราว
ทั้งทุกข์ สุข ปนเศร้า ก็รู้ว่ามีเราอยู่เคียงกัน
ทุก ทุกครั้งที่สายลมโบกพัดไหว
หัวใจก็ลอยไปไกลกับความรู้สึกนั้น
มีเพียงคำพูดที่มีค่าของความผูกพัน
อยากบอกเธอนั้น...ว่า....ฉันรักเธอ....
เพื่อขอบคุณทุกความรู้สึกที่มากมี
เพื่อขอบคุณทุกความดีมีให้กันเสมอ
เพื่อขอบคุณทุกคำที่เธอพร่ำเพ้อ
เพื่อขอบคุณทุกคำที่เธอบอก...ว่า...รักฉัน....
ทุก ทุกวันเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน
ทุก ทุกวันวารที่ยังคงมีกัน
ทุก ทุกสิ่งที่ทำให้เราสองคนต้องผูกพัน
ทุก ทุกความฝันที่เราสองยังคงร่วมทางเดิน
ตั้งแต่วันที่เธอมอบความรักที่ยิ่งใหญ่
ตั้งแต่หัวใจฉันรับรู้ไม่ขัดเขิน
ตั้งแต่วันที่สองเราร่วมทางเดิน
ตั้งแต่ไม่ได้เป็นส่วนเกินของใคร
ขอบคุณ ความรัก และความอบอุ่น
ขอบคุณ ความรัก ความคุ้นเคยที่มอบให้
ขอบคุณ ความรัก และทุกความห่วงใย
ขอบคุณ ความรัก และกำลังใจจากเธอ
...ขอให้ทุกคนที่มีรัก จงมีรักที่ดีค่ะ....
Eyes on Me
Celine Dion
I know that once in love
You don’t think of
The devil who’s inside
And maybe there’ll come one day
When you’ll feel safe
And I won’t have the time
You’ll hear what you wanna hear
Blink once I could disappear
Some rules to the game will make it right for both of us
Just say what you wanna say
I’ve got it to give away
We both wanna make it last so keep
Your eyes on me
Your eyes on me
It’s not an illusion
That you’re the one
And I have fallen deep
I said right from the start
When we’re apart
You must only think of me
Temptation is all around
Take good care of what you’ve found
That’s why when I turn around
You better keep
You better keep your eyes on me
No matter what you think I need
No matter what you once believed
If you’re mine
So you better say yeah
No matter what you think I need
No it doesn’t really matter what you once believed
Say yeah
I wanna be the air you breathe
Yeah you better be everything you said you’d be
So you better say yeah!
I wanna be the only one or we can’t go on
No matter what you think I need
You better keep your eyes on me
And say that you want me
Open up your heart
Even if it’s hard
Say that you need me
Better let ‘em know
Baby don’t put on a show
Say that you need me
Tell ‘em how you feel
Let ‘em know it’s real
And if you love me
Never turn your back
Gonna keep my eyes on that
Temptation is all around
Take good care of what you’ve found
That’s why when I turn around
You better keep…
You better keep your eyes on me
No matter what you think I need
No matter what you once believed
If you’re mine
So you better say yeah
No matter what you think I need
No it doesn’t really matter what you once believed
Say yeah
I wanna be the air you breathe
Yeah you better be everything you said you’d be
You better keep…
I wanna be the only one or we can’t go on
No matter what you think I need
You better keep your eyes on me…
Your eyes on me…
อ่านแล้ว มึนศีรษะแทนแลยค่ะ
ตอบลบการงานดูวุ่นวายมาก
แต่พอเข้าใจนะคะ ระบบข้าราชการยุ่งยากพอสมควร
ขนาดไม่ได้ทำราชการ แต่ติดต่อราชการทีก็นะ....ปวดดีรษะทุกครั้งเลยค่ะ ^^"
เอ้า คุณพี่กลับสู่วงการได้แร้นน
ตอบลบพ่อค้าแม่ค้าคิดถึงแล้วคร้าบบบบบ555555
ยุ่งซะขนาดนี้ นอนน้อยอีกตะกดระวังไม่สบายนะคร้าบบบบบบ
monkey
เหนื่อยเหมือนกันเลยที่รักจ๋า งิ งิ
ตอบลบแต่ของผมอาจจะน้อยกว่าเพราะเหนื่อยกาย แต่มะเหนื่อยสมอง
ตอนนี้หลอนเสียงนกหวีดมาก ได้ยินทีไรเป็นสะดุ้งทุกที - -"
รักษาสุขภาพด้วยนะคับ คิดถึงมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยคับ จุ๊บๆๆๆ